TRUE วิ่งแรง 3% ลุ้นพลิกกำไร 5 พันลบ.ในรอบ 2 ปี หลังบันทึกขายทรัพย์เข้า DIF

TRUE วิ่งแรง 3% นิวไฮในรอบกว่า 9 เดือน ลุ้นกำไร Q4/60 ทะลุ 8 พันลบ.รับไฮซีซันธุรกิจ ฟากโบรกฯ แนะ “ซื้อ” ราคาเป้า 8.20 บาท โดยล่าสุด ณ เวลา 11.09 น. อยู่ที่ระดับ 6.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 3.08% สูงสุดที่ระดับ 6.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.26 พันล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ณ เวลา 11.09 น. อยู่ที่ระดับ 6.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 3.08% สูงสุดที่ระดับ 6.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1.26 พันล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 9 เดือน นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 6.80 เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 60

สำหรับงวดไตรมาส 4/2560 ทางบริษัทมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF ในสินทรัพย์ tranch1 ซึ่งประเมินไว้ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท จึงส่งผลให้ TRUE มีแนวโน้มทำกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ประมาณ 5 พันล้านบาท

ดังนั้น จากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2560 ที่มีกำไรสุทธิ 5,000 ล้านบาท จะช่วยผลักดันให้ภาพรวมงบปี 2560 มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้อีกครั้ง และเติบโตขึ้นจากงวดปี 2559 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 2,814 ล้านบาท จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น TRUE ขานรับปัจจัยบวกของงบไตรมาส 4/2560 ที่พลิกกำไร

“แรงซื้อเก็งกำไรของหุ้น TRUE ที่มีเข้ามาในช่วงเมื่อวาน เป็นผลมาจากคาดการณ์ว่างบไตรมาส 4/2560 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ (รายไตรมาส) ในช่วงรอบเกือบ 2 ปี เพราะในไตรมาสนี้จะมีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษขายสินทรัพย์เข้า DIF จึงน่าจะทำให้งบไตรมาส 4/2560 ของ TRUE พลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้สักประมาณ 5 พันล้านบาท” แหล่งข่าวกล่าว

ด้านนักวิเคราะห์บล.กสิกรไทย ระบุว่า ล่าสุดได้กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น TRUE พร้อมกับให้ราคาเป้าหมาย 8.20 บาท โดยคาดว่า TRUE จะรายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ประจำไตรมาส 4/2560 ที่ระดับ 8.8 พันล้านบาท เติบโต 32% จากช่วงปีก่อน แต่จะลดลง 2% จากงวดไตรมาส 3/2560

สำหรับ EBITDA ไตรมาส 4/2560 ที่เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน เป็นผลจากรายได้บริการที่ปรับสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายการตลาดปรับลดลง โดยประเมินรายได้บริการที่ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม (IC) จะโตขึ้น 6% จากช่วงปีก่อน เนื่องจากรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ที่โตขึ้น

โดยเป็นผลมาจากการแข่งขันที่ปรับตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตาม EBITDA งวดไตรมาส 4/2560 จะลดลงเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 3/2560 ซึ่งมาจากคาดการณ์รายได้และค่าใช้จ่ายการตลาดที่มีระดับทรงตัว ทั้งนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยตามฤดูกาล และการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่

ด้านสัมปทานของบริษัทกับ TOT สำหรับการดำเนินงานกิจการ fixed-line นั้นหมดอายุลงในเดือน ต.ค. 2560 จึงประเมิน TRUE จะสูญเสียรายได้จำนวน 423 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2560 อย่างไรก็ตาม คาดผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมีต่อกำไรระดับปานกลาง เพราะที่ผ่านมากิจการ fixed-line เป็นหน่วยธุรกิจที่สร้างผลขาดทุน

Back to top button