ตลาดหุ้นเอเชียแดงทั้งกระดาน วิตกดาวโจนส์ดิ่ง 1,000 จุด!

ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงยกแผง วิตกดัชนีฯดาวโจนส์ดิ่ง 1,000 จุด หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1,000 จุดเมื่อคืน ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนอย่างหนัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในปีนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการลงมติร่างกฎหมายงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,507.74 จุด ลดลง 383.12 จุด, -1.75% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,172.85 จุด ลดลง 89.20 จุด, -2.73% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 29,679.21 จุด ลดลง 772.06 จุด, -2.54% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,371.01 จุด ลดลง 157.51 จุด, -1.50% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,346.73 จุด ลดลง 60.89 จุด, -2.53%

นอกจากนี้ ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,354.84 จุด ลดลง 61.06 จุด, -1.79% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,806.81 จุด ลดลง 32.63 จุด, -1.77% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,545.88 จุด ลดลง 99.20 จุด, -1.15%

ทั้งนี้ นักลงทุนตื่นตระหนกต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดในปีนี้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้

สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดีดตัวสู่ระดับ 2.878% ซึ่งใกล้แตะระดับสูงสุดในนรอบ 4 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.164% เมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 45 ปี สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 232,000 ราย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐ โดยนักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐซึ่งกำลังลงมติร่างกฎหมายงบประมาณในขณะนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาชัตดาวน์ โดยหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว ก็จะมีการส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้การอนุมัติต่อไป ก่อนที่จะให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมาย

ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณภายในเวลาเที่ยงของวันนี้ตามเวลาไทย สหรัฐก็จะเผชิญภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง หลังจากที่เกิดการชัตดาวน์เป็นเวลา 3 วันในเดือนที่แล้ว

Back to top button