PACE ถูกแขวนป้าย “SP” 1 วัน เหตุผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปงบการเงิน Q2-Q3

PACE ถูกแขวนป้าย "SP" 1 วัน เหตุผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปงบการเงินหลังส่งผล Q2-Q3/60 เช้าวันนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ตั้งแต่การซื้อขายภาคเช้าวันนี้ (12 ก.พ.2561) เป็นระยะเวลา 1 วัน ภายหลังจากการที่ PACE ส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 และไตรมาส 3/60 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2561 โดยผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของ PACE สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 และวันที่ 30 กันยายน 2560 (ฉบับแก้ไขหลังจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน)

อย่างไรก็ตาม PACE จะกลับมาซื้อขายตามปกติในวันที่ 13 ก.พ. 2561 โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้โดยจะคงเครื่องหมาย NP จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขหรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าไม่ต้องแก้ไขงบการเงิน

โดยการที่ตลท.ขึ้นเครื่องหมายดังกล่าวเพื่อเป็นการแจ้งให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทราบ และพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงิน รวมทั้งคำชี้แจงความสมเหตุสมผลเกี่ยวกับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนตามที่ก.ล.ต. ให้ชี้แจงอย่างระมัดระวังเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

 

ทั้งนี้ นางสาววิมลศรี จงอุดมสมบัติ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3899 บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอนด์ แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 อีกทั้งงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 และรายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาล

โดยไม่ให้ข้อสรุปผลการสอบทานต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 รวมถึงงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 เนื่องจากความไม่แน่นอนอย่างเป็นสาระสำคัญของการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว อาจมีผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม

สำหรับสาเหตุของการไม่ให้ข้อสรุปต่องบงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมเนื่องจาก กลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่นได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งหนึ่ง เพื่อทำการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด ใหม่

โดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) คำนวณ  คิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบันและวิธีการตีราคาสิทธิในการซื้อหุ้น (Black-Scholes option pricing model) ตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 เงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ายุติธรรมจำนวนเงิน 6,487 ล้านบาท และกลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ได้บันทึกเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวนเงิน 6,487 ล้านบาท และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวนเงิน 7,112.6 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากข้อจำกัดโดยสถานการณ์ ส่งผลให้ไม่สามารถสรุปผลการสอบทานรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวเกี่ยวกับการประมาณการรายได้ของจุดชมวิวจากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงไม่มีผลการประกอบการพาณิชยกิจจริงเพื่อเปรียบเทียบและเป็นธุรกิจใหม่ในตลาดของไทย

ทั้งนี้เนื่องจากความไม่แน่นอนอย่างเป็นสาระสำคัญของการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว อาจมีผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม ดังนั้น จึงไม่สามารถให้ข้อสรุปผลการสอบทานต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 รวมถึงงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560

 

อนึ่ง PACE ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 มีกำไรสุทธิ3.92 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ  1.042 บาทต่อหุ้น เทียบกับเมื่อปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 640.54 ล้านบาท หรือ 0.196 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560  มีผลขาดทุนสุทธิ 961.71 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.256 บาทต่อหุ้น เทียบกับเมื่อปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 798.72 ล้านบาท หรือ 0.22 บาทต่อหุ้น

Back to top button