TASCO ตั้งเป้ายอดขายยางมะตอยปีนี้2ล้านตัน จ่อสรุปแผนเพิ่มกำลังการผลิตมาเลฯอีกเท่าตัวในQ3

TASCO ตั้งเป้าปริมาณขายยางมะตอยปีนี้ 2 ล้านตัน เตรียมสรุปแผนเพิ่มกำลังการผลิตในมาเลเซียอีกเท่าตัว ภายใน Q3/61


นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในปี 61 บริษัทตั้งเป้ายอดขายยางมะตอยรวมที่ 1.9-2 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นยอดขายในประเทศราว 5 แสนตัน ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายต่างประเทศ

สำหรับยอดขายในประเทศ ถือเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง จากความต้องการใช้ยางมะตอยในประเทศที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลจะมีงบประมาณออกมามากในปีนี้ โดยขณะนี้บริษัทรอลุ้นงบประมาณเพิ่มเติมอีก 10,000 ล้านบาท ที่จะเข้ามาในกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ซึ่งหากมีการอนุมัติจะทำให้มีปริมาณยางมะตอยเกรดพิเศษเพิ่มขึ้น 80,000-100,000 ตันสำหรับทั้งตลาด ซึ่งจะส่งผลดีทั้งในแง่ยอดขายและอัตรากำไรขึ้นต้นที่สูงขึ้น โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ในเดือน เม.ย. นี้

ด้านตลาดต่างประเทศ บริษัทคาดว่าจะได้รับน้ำมันดิบในการผลิตยางมะตอยที่โรงกลั่นประมาณ 10 Shipments เนื่องจากมีแผนในการปิดโรงกลั่นในประเทศมาเลเซียราว 5 สัปดาห์ สำหรับการทำ Turn around maintenance ที่ต้องทำทุก ๆ 3 ปี โดยในครั้งนี้จะอยู่ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.-10 เม.ย.61 และสถานการณ์การขนส่งน้ำมันดิบในเวเนซุเอลาที่ยังอาจมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตามบริษัทได้เตรียมรับมือโดยการเซ็นสัญญาระยะยาวซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นต่าง ๆ ในประเทศสิงคโปร์ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ รวมประมาณ 1.2 แสนตัน เพื่อชดเชยในส่วนที่ขาดหายไป รวมถึงมีแผนสำรองในการหาน้ำมันดิบจากประเทศแถบอเมริกาใต้ ได้แก่ บราซิล โคลัมเบีย และเอกวาดอร์ เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/61

ขณะที่อุปสงค์ในภูมิภาคจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย ปัจจุบันบริษัทได้โปรเจกต์สนามบินจาร์กาต้า ประเทศอินโดนีเซีย มาแล้ว ส่วนความคืบหน้าการลงทุนในต่างประเทศโรงงานในประเทศลาวและคลังยางมะตอยในประเทศมาเลเซียฝั่งตะวันออกของบริษัทร่วมทุนน่าจะมีการผลิต/จำหน่ายยางมะตอยได้ ด้านราคายางมะตอยในต่างประเทศมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น บริษัทคาดว่ายอดขายต่างประเทศในปีนี้จะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว

“เรามองว่ากำไรของเราคงจะทรงตัวจากปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังลุ้นในช่วงครึ่งปีหลังราคายางมะตอยที่อาจมีทิศทางที่จะเพิ่มขึ้นราว 10-20% จากการที่หลาย ๆ โรงกลั่นในตลาดโลกจะมีการปรับมาตรฐานการกลั่น เนื่องจากมีมาตรฐานใหม่ที่น้ำมันเพื่อการขนส่งทางเรือ ต้องมีค่ากำมะถันลดลงเหลือ 0.5% จาก 3.5% แต่อย่างไรก็ตามความต้องการยางมะตอยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามองว่าราคายางมะตองมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้”นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทเตรียมสรุปแผนการลงทุนโครงการเพิ่มกำลังการผลิตยางมะตอยในโรงกลั่นประเทศมาเลเซียอีกราวกว่า 1 ล้านตัน โดยคาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มอีก 1 เท่าตัว จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ 1.2 ล้านตัน ซึ่งจะใช้งบลงทุนราว 150 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/61 นี้ และจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือเริ่มผลิตได้ช่วงไตรมาส 3/63

สำหรับปีนี้บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ 1,375 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสร้างคลังเก็บน้ำมันดิบในประเทศมาเลเซีย แลประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3-4/61 และจะใช้ในการลงทุนโครงการเพิ่มกำลังการผลิตยางมะตอยในโรงกลั่นประเทศมาเลเซียบางส่วน

 

Back to top button