เกมมันวางไว้แบบนี้!โมนิก้าและทีมงาน

*ช่วงที่ผ่านมามีแฟนคลับสงสัยกันมากเหลือเกินว่า เดี๊ยนไม่เม้าท์ถึงเรื่องลับๆ ล่อๆ ของคนในวงการตลาดหุ้น และดูเหมือนจะปล่อยวางจากประเด็นร้อนๆ พร้อมกับมุ่งตรงไปยังเรื่องหุ้นเพียวๆ มันทำให้ชีวิตแมงเม่าเหมือนขาดรสชาติอะไรบ้างอย่างไปนั้น “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพูดถึงเรื่องคนอื่นมากนัก เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่เจ้าค่ะ


 *ช่วงที่ผ่านมามีแฟนคลับสงสัยกันมากเหลือเกินว่า เดี๊ยนไม่เม้าท์ถึงเรื่องลับๆ ล่อๆ ของคนในวงการตลาดหุ้น และดูเหมือนจะปล่อยวางจากประเด็นร้อนๆ พร้อมกับมุ่งตรงไปยังเรื่องหุ้นเพียวๆ มันทำให้ชีวิตแมงเม่าเหมือนขาดรสชาติอะไรบ้างอย่างไปนั้น “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปพูดถึงเรื่องคนอื่นมากนัก เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่เจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวน ข่าวสารการลงทุนไม่มีอะไรให้ชื่นใจ การลงทุนยังเป็นการเล่นสั้นๆ ตัวเลขการเติบโตยังเป็นเพียงเป้าลอยๆ หลายบริษัทไม่สามารถเบ่งกำไรได้ตามเป้าหมาย “โมนิก้า” ถึงไม่มีเวลาไปป้องปากเม้าท์เรื่องชาวบ้าน และเอาเวลาที่มีอยู่ทั้งหมดไปหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนดีกว่า พร้อมกับแนะนำแฟนคลับโฟกัสไปที่หุ้นรายตัวไงล่ะค่ะ

*วันนี้ไม่ต้องวิเคราะห์ หรือ บรรยายอะไรอีกต่อไป เพราะหุ้นที่ “ขึ้นทน ขึ้นนาน” ถือเป็นทีเด็ดที่มีมาร์เก็ตเมคเกอร์คอยดูแล บวกกับเป็นหุ้นที่โบรกเกอร์เชียร์ให้เล่นสุดตัว จึงกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ยากจะหาตัวจับ ส่วนหุ้นที่ขึ้นแรงวันเดียวแล้วเลิกทันที มันเป็นเกมที่ทุกคนรู้อยู่เต็มอกแล้วว่า ใครไวกว่าได้เปรียบ! จึงไม่ต้องหาเหตุผลมาอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เสียเวลานะคะ

*ขนาดช่วงเช้าของวันศุกร์ดัชนีเปิดบวกไป 10 จุด แต่สุดท้ายจบลงแบบน้ำเน่า เพราะดัชนีลงมาปิดที่ 1,523.86 จุด ลบไป 2.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.85 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นที่ลดน้อยถอยลง ผนวกกับไม่มีใครอยากถือหุ้นข้ามสัปดาห์ จึงเกิดเหตุการณ์ “เช้าขึ้น บ่ายลง” ถี่เหลือเกินในหมู่นี้ และเหตุการณ์นี้น่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่งนะจะบอกให้

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ KTBถ้ามองในมุมของ “ม้าแก่ชำนาญทาง” ทุกคนต่างรู้ดีว่า แบงก์แห่งนี้เละเทะมาตั้งนานแล้ว การปล่อยสินเชื่อทุกยุคทุกสมัย มักมีปัญหาตามหลังมาเป็นประจำ บวกกับทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารงาน ชอบใช้แบงก์แห่งนี้ทำอะไรหวาดเสียวเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่สถานการณ์ของหุ้นดูไม่ค่อยดี ล่าสุดหุ้นปิดที่ 18.60 บาท มองในมุมนี้ ยังไม่ใช่เวลาของการซื้อแน่ๆ เพราะการตั้งสำรองตั้งเยอะแยะ ย่อมกระทบกำไรในแต่ละไตรมาสเจ้าค่ะ

*ทางออกเดียวในตอนนี้คือ ขายสินทรัพย์บางอย่างที่ถือไว้ออกไป และหวยก็มาออกที่ TNITY  พร้อมอธิบายการลดสัดส่วนในครั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยจึงเทขายหุ้นทั้งหมด 38.39 ล้านหุ้น  คิดเป็นสัดส่วน 19.44%  ให้กับ “นายแพทย์นิติพล ชัยสกุลชัย”  ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้บริหารนิติพลคลีนิกเพียงเท่านี้ก็ทำให้พรายกระซิบวาดฝันเหตุการณ์ต่างๆ เป็นเรื่องเป็นราวในทันที ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 8.50% นะจ๊ะ

*ประเด็นข้างต้นกลายเป็นฉนวนเหตุให้หุ้นขนาดใหญ่ที่มีกระทรวงการคลังถืออยู่โดนถล่มอย่างหนักหน่วงตลอดช่วงภาคบ่าย  หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งนำโดย “สมหมาย ภาษี” เปรยความในใจของตัวเองว่า กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎหมายพิเศษ เพื่อล้างหนี้วงเงินกว่า 7.2 แสนล้านบาทและหนึ่งในวิธีดังกล่าวก็คือ การขายหุ้นที่ถือทิ้งไปไงล่ะค่ะ

*งานนี้หวยเลยออกมาที่ MCOT THAI PTT AOT  และTMBซึ่งต้องดูกันต่อไปว่า หุ้นตัวไหนจะเป็นคิวโดนเชือดรายต่อมา เพราะสิ่งที่เห็นในตอนนี้เป็นแค่การมโนของกูรูค่ายต่างๆ ผสมผสานกับพวกนกกระจิบ นกกระจอกร้องกันเจี๊ยวจ๊าว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับติดตามดูสถานการณ์กันเอาเอง เพราะเรื่องนี้เป็นความมั่นคงในกระเป๋าของนักลงทุนแต่ละรายนะค่ะ

*เหมือนกับการสลับหน้าเล่นของ 2 แม่ลูก TIPCOและ  TASCO“โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักอ่านเกมรู้ล่วงหน้า และทันทีที่เห็นการเทขายทำกำไรในรายหลัง จนราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 16.30 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 6.80% หุ้นตัวนี้ก็กระชากสวนขึ้นมาทันที ก่อนจะมาปิดที่ 10.60บาท บวกไป 1.35บาท หรือขึ้นไป 14.60%  เดี๊ยนเลยถึงบางอ้อ และมั่นใจว่า หุ้นแม่จะวิ่งต่ออีกระยะหนึ่งอย่างแน่นอน ส่วนหุ้นลูกเมื่อผ่านพ้นกระบวนการเทขายหุ้นทำกำไรเสร็จสรรพ ต่อจากนั้นจะขยับขึ้นอีกครั้ง..เชื่อเถอะ!

*เช่นเดียวกับในรายของ SCNถ้ามองในมุมของการเล่นรอบ “โมนิก้า” ไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.90บาท บวกไป 0.60บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น มันเป็นสถานการณ์ที่เอื้อให้เป็นเช่นนี้ และอย่าลืมว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา หุ้นไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 14 บาทขึ้นไปได้ พร้อมกับโรยตัวลงมาย่ำฐานแถว 12 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปใหม่อีกรอบแบบนี้..ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยไหม ลองติดตามดูกันนะคะ

Back to top button