BEC โชคดีที่ยังมีกำไร

ผลของการขาดทุน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 ที่รุนแรงเกินคาด ทั้งขาดทุนจากการดำเนินงาน  357 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 336 ล้านบาท ส่งผลรุนแรงยิ่ง....เกินคาด


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ผลของการขาดทุน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 ที่รุนแรงเกินคาด ทั้งขาดทุนจากการดำเนินงาน  357 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 336 ล้านบาท ส่งผลรุนแรงยิ่ง….เกินคาด

เกินคาดแค่ไหน ดูได้จากการลาออก เพราะ “หน้าบาง” จากตำแหน่งกรรมการของนายสมประสงค์ บุญยะชัย ที่เข้ามานั่งในตำแหน่งยังไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ… เป็นกรณีศึกษาที่ดี

รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2560 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2560 มีผลการดำเนินงานงวดดังกล่าวปรับตัวลดลงมากจนเหนือความคาดหมาย

กำไรปกติลดลง 96.4% จากระยะเดียวกันปีก่อน ทำให้กำไรสุทธิลดจาก 1,218.29 ล้านบาทของปีก่อนหรือกำไรต่อหุ้น 0.63 บาท เหลือเพียงแค่ 61.01 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้นแค่ 0.03 บาท

คำอธิบายจากผู้บริหารระบุว่า กำไรที่ลดลงน่าใจหาย มาจากรายได้โฆษณาลดลง 11.0% แต่ต้นทุนบริการเพิ่ม 4.5% จากต้นทุนผลิตรายการและมีต้นทุนถ่ายทอดกีฬาเพิ่มขึ้นมาก โดยที่เนื่องจากรายได้การขายเวลาโฆษณาของกลุ่มอยู่ที่ 9,890 ล้านบาท ลดลง 11.3% ตามเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมของตลาดที่มีการหดตัว โดยเฉพาะรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์ รวมทั้งรายได้จากการขายสินค้าลดลง สวนทางค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

แม้ผู้บริหารจะไม่พยายามพูดถึงเลย…แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ผลกระทบจากปัจจัยตกค้างปี 2559 …สรยุทธ เอฟเฟ็กต์…มีผลทำให้เรตติ้งที่ปรับลดลงของโทรทัศน์ช่อง 3 เนื่องจากขาดแม่เหล็กชั้นดี จากการหยุดดำเนินรายการของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ยังทดแทนไม่เคยได้

โชคดีที่ยังมีกำไรให้เห็น เพราะบริษัทอื่นๆ ถึงขั้นต้องรอ มาตรา 44 มาช่วยให้รอดตายกันเลยทีเดียว….แม้สำหรับ BEC จะยังมีนักวิเคราะห์ “ขาเชียร์” จะพยายามปลอบใจว่า…คาดว่าผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ราคาหุ้นฟื้นตัวหรือหยุดขาลงเอาเสียเลย

หลายปีมาแล้ว ที่มีคนพูดถึงขาลงของ BEC ว่า มีลักษณะซึมลงยาว ตั้งแต่การเปลี่ยนระบบออกอากาศเข้าสู่ดิจิทัลปี 2557  เพราะทำให้สัดส่วนทางการตลาดของ BEC อยู่ในทิศทางที่ปรับลดลงตลอด ต้นทุนการดำเนินงานช่องดิจิทัลทั้ง 3 ช่อง ได้แก่ 3HD, 3SD, 3Family มีเพียงช่อง 3HD ที่ทำกำไร ขณะที่อีกสองช่องคือ 3SD และ 3Fammily บันทึกขาดทุนต่อเนื่อง

ล่าสุด มุมมองเชิงลบยังดำรงอยู่ เพราะยังมีนักวิเคราะห์ “ขาทุบ” ยังออกบทวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ไตรมาสแรกปี 2561 สถานการณ์ยังไม่กระเตื้องมากนัก เนื่องจากแม้รายได้โฆษณาช่องหลัก (Analog TV ที่ออกอากาศคู่ขนานกับช่อง 33 HD) ในเดือน ก.พ.  และ มี.ค. มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ถูกหักกลบจากตัวเลขในเดือน ม.ค.ที่ลดลงมาก อาจจะส่งผลให้แนวโน้มรายได้และกำไรในไตรมาสแรกปีนี้ยังทรงตัวต่อจากไตรมาสสุดท้ายปีก่อนที่มีตัวเลขขาดทุนมหาศาล …สรุปง่ายๆ สั้นๆ คือ ละครน้ำเน่าสร้างซ้ำ อย่าง เงินปากผี ชั่วโมงต้องมนต์ และ บุพเพสันนิวาส….  ช่วยไม่ให้ขาลงแรงเกินไปเท่านั้น

แม้ปีนี้จะยังมีคำปลอบใจว่า กำไรไม่น่าจะเลวร้ายกว่าเดิม…เพราะต้นทุนลดลงจากการควบคุมต้นทุน และต้นทุนถ่ายทอดกีฬาต่างประเทศไม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีส่วนแบ่งรายได้จากสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากรายได้จากการขายรายการโทรทัศน์บางส่วนไปจีน … แต่คำแนะนำให้ ถือ ยังออกอาการหวั่นวิตกพอสมควร

เหตุผลเพราะการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการแข่งขันในตลาดโฆษณารุนแรงกว่าคาด…และที่สำคัญสุด คือ ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า disruptive innovation นั่นเอง

ปรากฏการณ์รายได้หาย กำไรหด … ทำให้ BEC กลายเป็นหุ้น “เทวดา (เกือบ) ตกสวรรค์” …..ส่วนจะกู่กลับมาได้หรือไม่… คงไม่ต้องถาม สมประสงค์ที่อำลาไปเสียแล้ว แต่ต้องถามคนในตระกูล มาลีนนท์ เจ้าเก่าแทน

อิ อิ อิ

Back to top button