ภูเขา 3 ลูก

*ข้อมูลอย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” อยากให้เซียนหุ้นทั้งหน้าใหม่ และหน้าเก่าได้รับรู้ก็คือ การขึ้นของดัชนีเที่ยวนี้มีเป้าหมายอยู่ที่บริเวณ 1,850 จุด โดยดัชนีต้องวิ่งขึ้นไปยืนเหนือบริเวณดังกล่าวให้ได้ เพื่อทำให้ภาพการขยับตัวชัดเจนขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะรูปแบบการเล่นในช่วงที่ผ่านมายังเป็นลักษณะ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ดัชนีถึงวนเวียนไปมาเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ข้อมูลอย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” อยากให้เซียนหุ้นทั้งหน้าใหม่ และหน้าเก่าได้รับรู้ก็คือ การขึ้นของดัชนีเที่ยวนี้มีเป้าหมายอยู่ที่บริเวณ 1,850 จุด โดยดัชนีต้องวิ่งขึ้นไปยืนเหนือบริเวณดังกล่าวให้ได้ เพื่อทำให้ภาพการขยับตัวชัดเจนขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะรูปแบบการเล่นในช่วงที่ผ่านมายังเป็นลักษณะ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ดัชนีถึงวนเวียนไปมาเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมไงล่ะคะ

*ที่น่าสนใจคือ หากนักเล่นสังเกตให้ลึกลงไปอีกนิดหนึ่งจะเห็นปรากฏการณ์ภูเขา 3 ลูกชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยภูเขาลูกแรกเคลื่อนตัวอยู่ที่บริเวณ 1,575-1,725 จุด ส่วนลูกที่สองเคลื่อนตัวอยู่ที่บริเวณ 1,700-1,835 จุด และลูกที่สามกำลังจะเกิดขึ้นน่าจะตั้งต้นกันที่บริเวณ 1,850-2,000 จุด “โมนิก้า” ถึงยังมีความเชื่อลึกๆ ในมุมของนักเล่นเทคนิคว่า ดัชนียังมีลุ้นขึ้นต่อได้นะคะ

*เนื่องจากรูปแบบการเคลื่อนตัวออกไปในโทนบวก และเมื่อดูจากแพทเทิร์นต่างๆ จะเห็นว่า ดัชนีพยายามยกฐานแนวรับให้สูงขึ้นเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถึงมองการกระชากขึ้น และอาการกระชากลงของดัชนี ไม่มีเรื่องอะไรต้องวอรี่ เพราะตราบใดที่ดัชนียังเคลื่อนตัวบนกรอบ “แนวรับ-แนวต้าน” ก็หมายความว่า ทุกอย่างยังอยู่ภายในการคอนโทรล และสามารถเล่นตามภาวะตลาดได้นะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงมองการทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,830.39 จุด ลบไป 3.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 แสนล้านบาท มันเป็นจังหวะที่บรรยากาศการลงทุนพาไป บรรดานักโหนกระแสถึงกระโจนใส่หุ้นบลูชิพอย่างเมามัน เพราะเมื่อเหลือบดูหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่กำลังถูกถล่มเทขายอย่างหนักในเวลานี้ “โมนิก้า” พูดได้ในทันทีว่า ผลงานไม่ประทับใจจอร์จกันทั้งนั้น จึงต้องเทขายหุ้นเพื่อโยกเงินไปลงทุนยังหุ้นตัวอื่นไงล่ะคะ

*ส่วนดาวเด่นที่นักเล่นต้องมีติดพอร์ต และการเคลื่อนตัวเป็นแบบภูเขา 3 ลูกชัดเจนอย่างเช่น IRPC ยังคงเป็นทีเด็ดสำหรับการเล่นเที่ยวนี้เหมือนเดิม เพียงแต่เที่ยวนี้มีความตั้งใจมาไล่ราคาแบบสุดซอย หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 8.05 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.46 พันล้านบาทอย่างง่ายดาย เดี๊ยนถึงเชื่อว่า หุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆ เพราะราคาเป้าเที่ยวนี้อยู่ที่ 9 บาทเป็นอย่างต่ำน่ะซี

*เช่นเดียวกับในรายของปูนใหญ่ SCC พยายามยกตัวสูงขึ้น และพยายามตั้งฐานเหนือระดับ 500 บาทตลอดเวลา สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จตามที่มุ่งหวังสักที จนล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 494 บาท บวกไป 12 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นอีกหนึ่งไซเคิลที่นักลงทุนต้องหัดเรียนรู้ว่า หุ้นตัวนี้เคลื่อนตัวไปในแนว w-shape มากกว่ารูปแบบอื่นพะย่ะค่ะ

*สำหรับในรายของ WORK มีประเด็นให้ขบคิดไม่แพ้กัน เพราะมองในมุมของการเคลื่อนตัวภูเขา 3 ลูก ต้องยอมรับว่า ผ่านพ้นช่วงขาขึ้นไปแล้ว ตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงขาลงอีกรอบหนึ่ง ซึ่งมีแพทเทิร์นภูเขา 3 ลูกต่ำลงเรื่อยๆ บวกกับห็นตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4 ปี 2560 โผล่มาให้เห็นแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่เชื่อว่า หุ้นจะยืนปิดที่ระดับ 83.50 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่า 827 ล้านบาทอย่างมั่นคงนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น JMART มีแรงเทขายถล่มออกมาตลอดทั้งวัน จนหุ้นลงมาปิดที่ 18.60 บาท ลบไป 3.70 บาท หรือลงไป 16.60% ด้วยมูลค่า 580 ล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากผลงานปี 2560 ไม่ปังเหมือนกับที่คิดไว้ รวมทั้งตัวเลขกำไรในไตรมาส 4 ก็ออกมาไม่โดดเด่น ทั้งที่ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นจังหวะโกยเงินเต็มที่ จึงทำให้แฟนพันธุ์แท้ทิ้งหุ้นหนีตายกันอลหม่านไงล่ะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของช่องน้อยสี BEC โดนสาดหุ้นทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า แต่แรงเทขายก็ไม่มีวี่แววจะเบาบางลงสักที จนวานนี้หุ้นลงมาทำ new low ตั้งแต่เช้าตลาดหุ้นมาเป็นเวลา 21 ปี ด้วยการปิดที่ระดับ 10.30 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 228 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่ากลัวจนต้องหลีกเลี่ยงหุ้นตัวนี้เป็นการชั่วคราว เพราะมองไม่เห็นวิธีที่จะทำให้ช่องนี้กลับมาทำกำไรอย่างบูรณาการน่ะซี

*ส่วนอีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” มองว่า โอเว่อร์แอ๊คติ้ง จนไม่สามารถหาคำใดๆ มาบรรยายได้เลย คงต้องโฟกัสไปที่หุ้นน้ำแข็งใส AU ถูกเทขายหนักๆ เป็นเวลาร่วม 2 สัปดาห์ จนราคาหุ้นร่วงลงจากระดับ 15 บาท ลงมายืนอยู่ที่บริเวณ -12.60 บาท ลบไปอีก 1.20 บาท หรือลงไป 8.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 209 ล้านบาท โดยค่า P/E ยังอยู่ที่ระดับ 94 เท่าแบบนี้ มองจากมุมไหน ด้านไหน หุ้นก็น่าจะลงต่อนะคะ

Back to top button