หุ้นไม่รักดี…

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น หรือต้องตกใจ เพราะทุกอย่างอยู่ในประมาณการก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นดัชนีอ่อนตัวลงแรงจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ จึงไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงอะไรมากมายนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น หรือต้องตกใจ เพราะทุกอย่างอยู่ในประมาณการก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นดัชนีอ่อนตัวลงแรงจากอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศ จึงไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงอะไรมากมายนะคะ

*เมื่อทุกคนเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คงไม่มีใครแปลกใจที่ดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,811.98 จุด ลบไป 18.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.03 หมื่นล้านบาท เพราะนักเล่นกลุ่มสถาบันยังเน้นเทรดสั้นๆ เพื่อเพิ่มผลกำไรในเวลาที่ถูกจำกัด ภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีถึงอยู่ในลักษณะ w-shape ไงล่ะคะ

*ประกอบกับหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กอยู่ในอาการ sell on fact กันเป็นส่วนมาก “โมนิก้า” ถึงเห็นนักเล่นขาลุยโยกหุ้นไปมาอย่างสนุกสนาน แถมหุ้นบางตัวที่เห็นกันชัดๆ ว่า ผลงานในไตรมาส 1 น่าจะออกมาไม่ดี แต่ดันมีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคากันอย่างสนุกสนานแบบนี้..มันผิดฝา ผิดตัวกันเกินไปไหมคะ

*เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหุ้น BEC โดนถล่มขายอย่างหนักหน่วง จนราคาหุ้นรูดทำ new low เป็นว่าเล่น จู่ๆ ดันมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาไล่ราคาหุ้นหูดับตับไหม้ จนขึ้นมาปิดที่ 11.20 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 10.89% ด้วยมูลค่า 346.79 ล้านบาท มันใช่เรื่องไหมล่ะคะ

*กลับกันในรายของแบงก์สีฟ้า KTB วันก่อนมีการเข้ามาไล่ราคากันอย่างสนุกสนาน แต่ทันทีที่บรรยากาศลงทุนไม่เป็นใจ ก็มีแรงเทขายถล่มออกมาไม่ยั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ 19.90 บาท ลบไป 0.40 บาท ด้วยมูลค่า 808.54 ล้านบาท แบบนี้ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ต้องกังวลใจมากๆ เพราะเข้าสูตรดันแล้วปล่อยค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ILINK ทำผลงานได้น่าผิดหวัง ทั้งที่ได้งานมาอยู่ในมือหลายพันล้านบาท บรรดาแมงเม่าเลยกังวลว่า ผลงานปี 2561 คงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ คนที่ถือหุ้นเลยพากันทิ้งอุตลุด ราคาหุ้นถึงทรุดฮวบลงมาปิดที่ 9.50 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 2.56% “โมนิก้า” คงบอกได้แค่ว่า ถอยเป็นการชั่วคราวดีกว่าทนทู่ซี้ต่อไปคงไม่ได้ประโยชน์อะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ

*ขณะเดียวกัน รายที่ถูกทิ้งเละเทะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอย่าง TTCL ก็กลายเป็นช็อตที่ทำให้สังคมได้เรียนรู้กันอีกครั้งหนึ่งว่า เมื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เป็นฝ่ายบริหารทั้งคู่ทะเลาะกัน ความซวยทั้งหมดเลยมาตกที่คนถือหุ้น จึงเป็นอีกครั้งที่หุ้นรูดลงมาปิดที่ 8.40 บาท ลบไป 3.60 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่า 299.82 ล้านบาท แบบนี้..มีสิทธิ์ทำ New Low ต่อนะคะ

*เพื่อเป็นการย้ำหัวหมุดให้ดูสมจริงสมจังมากยิ่งขึ้น “โมนิก้า” อยากให้มิตรรักแฟนเพลงลองล้วงดู อุ้ย! คิดดูลึกๆ แล้วไหนบอกเดี๊ยนหน่อยซิ…การตัดสัมพันธ์อย่างปัจจุบันทันด่วนของทุนใหญ่จากแผ่นดินแม่ แท้จริงแล้วเป็นการด่วนเช่นนั้นจริงจริ๊งจริงจริง หรือทั้งหมดเป็นเพียงภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกปิดบาดแผลเชิงพื้นฐานของหุ้นตัวนี้?

*เนื่องจากข้อเท็จจริงบางอย่างที่เดี๊ยนยอมพลีกายถวายตัวเพื่อปรนนิบัติใครบางคนจนล่วงรู้มาได้ มันบ่งชี้ว่า “พ่อยอดชายโกโบริ” ผู้กุมบังเหียนกิจการกำลังเผชิญปัญหาอย่างหนักหน่วงคือ ไม่รู้จัก แถมสะกดคำว่า “บริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” ไม่เป็นน่ะสิเจ้าคะ เอ้า! รู้แล้วบอกต่อด้วยนะฮ้า อิ อิ

*สำหรับสาวพราวเสน่ห์อย่าง “โมนิก้า” มองการรับเหมาก่อสร้างเป็นงานหนึ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” ระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง (ยกตัวอย่าง) ไม่ว่าจะเป็นกรณี “รับเงินล่วงหน้ามาแล้วก็ต้องสร้างให้เสร็จ” หรือแม้กระทั่ง “การคิดชั่วโมงวิศวกรตามจริง” เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ “ผู้รับเหมาดีๆ” เขาทำกันยังไงล่ะคะ

*มาถึงตรงนี้ “โมนิก้า” คงไม่มีความจำเป็นต้องเก็บงำอะไรไว้ให้วุ่นวายหัวใจ เพราะสิ่งที่รู้มาคือใครคนนั้นกำลังสวมบทบาท “ไอ้ขี้โกง” อย่างไม่เกรงกลัวจะถูกสังคมตราหน้าเช่นไร พร้อมทั้งมีการแสดงออกถึงความแข็งกร้าวในการเป็นตัวของตัวเองมาโดยตลอด ชนิดที่เจ้าของตัวจริงก็คุมไม่ได้ ฉุดไม่อยู่!

*เช่นนี้แล้ว การที่ “โตโยแม่” ขายหุ้นลูก(ไม่)รักดีอย่าง TTCL ออกมาจนหมดเกลี้ยงก่อนหน้านี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่ “โมนิก้า” อยากให้มิตรรักแฟนเพลงที่เคารพรักทุกท่านพึงระวังหุ้นตัวนี้ไว้ให้ดี! เพราะการที่ราคาทรุดตัวลงมาติดฟลอร์ครั้งนี้อาจเป็นการปรับตัวลงเพื่อสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาจริงๆ ก็ได้ อิ อิ

ป.ล. “โมนิก้า” ได้ยินมาแว่วๆ เห็นมาแว่บๆ ว่าที่ผ่านมา “โตโยแม่” เป็นผู้ป้อนงานเข้ามาให้เกือบจะทั้งหมด และตอนนี้ที่ไม่ได้มาร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยอีกต่อไป จึงน่าสนใจว่า “แล้วยังจะเอางานมาให้อีกหรือเปล่า!” จุ๊บ จุ๊บ

Back to top button