เปิด 6 กลยุทธ์เด็ดน่าลงทุน พร้อมจับตาสนช.พิจารณาร่างพรบ.เลือกตั้ง 2 ฉบับวันนี้

เปิด 6 กลยุทธ์เด็ดน่าลงทุน พร้อมจับตาสนช.พิจารณาร่างพรบ.เลือกตั้ง 2 ฉบับวันนี้


บล.ไอร่า ระบุว่า ภายใต้ตลาดต่างประเทศที่เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง มีทั้ง + / – คาดยังได้รับ Sentiment ลบ โดยเฉพาะความกังวลต่อนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ล่าสุดคาดจะมีการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม อัตรา 25% และ 10% ภายในสัปดาห์นี้

พร้อมกับความกังวลต่อการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะครบกำหนด 23/3/61 หลังเดือนก.พ. ผ่านในระยะเวลากระชั้นชิด และ ม.ค. ประสบกับภาวะ “Government Shutdown”

นอกจากนี้ยังแนะติดตามการประชุมเฟด 20 – 21/3/61 ที่คาดในครั้งนี้มีโอกาสสูงที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้ คาดอยู่ที่ 1.50 – 1.75% จาก 1.25 – 1.50% จากก่อนหน้านี้ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ (คาดในเดือนมี.ค. มิ.ย. และ ก.ย.) จากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเข้าสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2.0% ในระยะกลาง พร้อมมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

ด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ โดยคาดยังมีแรงเก็งกำไรเงินปันผล ก่อนขึ้น XD ต่อเนื่อง ในเดือนนี้ – เดือนหน้า ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานคาดเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน +/- โดยคาดยังคงถูกกดดันจากปริมาณผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่คาดในระยะกลาง – ยาว ยังได้รับ Sentiment บวก จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี’61 รวมถึงความคืบหน้าโครงการ EEC ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอประกาศใช้เป็นกฎหมาย คาดยังเป็น Sentiment ที่ดีต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอกชน และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากโครงการก่อสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน

พร้อมแนะติดตามประเด็นทางการเมือง โดยในวันนี้ สนช. จะพิจารณาร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง 2 ฉบับ (การเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.) ซึ่งหากผ่านคาดเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายใน ก.พ.’62 ซึ่งเป็นคาดการณ์ก่อนหน้านี้ตลาดฯ

รวมทั้งยังแนะจับตา

(1) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เช่น BBL, KTB

(2) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น

(3) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น MONO และ WORK

(4) กลุ่มท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เช่น CENTEL, MINT และ SPA

(5) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว เช่น AOT และ PSL จากค่าระวางเรือ

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากโครงการ EEC ที่มีความชัดเจนขึ้นตามลำดับ คาดได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอกชน และโครงการก่อสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน

Back to top button