สังคมข่าวหุ้น

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน รวมๆ แล้ว 55 จุด (วานนี้ปิด 1,778.90 จุด) แต่ดัชนีที่ลงมา ยังไม่ร่วงมาแตะแนวรับสำคัญแถวๆ 1,750 จุด ที่นักวิเคราะห์ต่างมองกันว่า เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ แต่ก็ต้องเลือกกันเป็นรายตัวไปนะ ปาเป้าไม่ได้  หุ้นที่แนะนำยังอิงกับเรื่องปัจจัยในประเทศ กลุ่มบริโภค พลังงาน  ปิโตรเคมี พวกนี้หากราคาย่อลงมา ซื้อสวนได้ทันที


คาเฟอีน

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลงเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน รวมๆ แล้ว 55 จุด (วานนี้ปิด 1,778.90 จุด) แต่ดัชนีที่ลงมา ยังไม่ร่วงมาแตะแนวรับสำคัญแถวๆ 1,750 จุด ที่นักวิเคราะห์ต่างมองกันว่า เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ แต่ก็ต้องเลือกกันเป็นรายตัวไปนะ ปาเป้าไม่ได้  หุ้นที่แนะนำยังอิงกับเรื่องปัจจัยในประเทศ กลุ่มบริโภค พลังงาน  ปิโตรเคมี พวกนี้หากราคาย่อลงมา ซื้อสวนได้ทันที

*หุ้น AOT บมจ.ท่าอากาศยานไทย หลังจากหลุด 70 บาท มาได้ 4-5 วันทำการ โอกาสจะกลับขึ้นไปค่อนข้างยากซักหน่อย เพราะเป็นแนวต้านสำคัญ มีแรงขายตลอดทางแน่นอน ส่วนปัจจัยบวก ต่างรับรู้กันไปหมดแล้ว ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมา ก็สะท้อนกับผลประกอบการช่วง ม.ค.-มี.ค. 61 ไปแล้วด้วย หากจะให้ราคาขึ้นมาแรงๆ อีก คงต้องไปสอยเรื่องในอนาคตมาเล่นกัน ส่วนใครที่ยังค้างเติ่งอยู่ 75-76 บาท เข้าใจว่า คงต้องน่ารับลมไปอีกหลายเพลานะออเจ้า

*เกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มไทยพาณิชย์ เมื่อแม่-ลูกไปกันคนละทาง เกี่ยวกับหุ้น EA หรือพลังงานบริสุทธิ์ หลังก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน บล.ไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์แนะนำ “ขาย” หุ้น EA ให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท แต่ล่าสุดวานนี้แบงก์ไทยพาณิชย์ ผู้ให้สินเชื่อรายใหญ่กับ EA ออกมาโดดอุ้มบอกว่า EA ทำผลงานได้ดี และดีกว่าที่คาด และยังพร้อมสนับสนุนโครงการแบตเตอรี่ที่มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ทำเอานักลงทุนถึงกับเวียนหัว ส่งสารมายัง “ข่าวหุ้น” เพื่อฝากไปยัง “ก๊วนรัชโยธิน” ให้นั่งคุยกันบ่อยๆ หน่อยนะ เฮ้อ…ลูกทำ “ปืนลั่น”  ครั้งใด ทำแม่เหนื่อยทุกที

*บมจ.ปตท.สผ. หรือ PTTEP  มีข่าวดีเข้ามาเมื่อทางการอินโดนีเซียถอนฟ้อง (อาจชั่วคราว) แต่ที่น่าสนใจคือ ตอนที่ถูกฟ้องเห็นสื่อหลายสื่อกระหน่ำลงข่าวกันซะฝุ่นตลบไปหมด แต่พอตอนช่วง “ถอนฟ้อง” กลับไม่มีข่าวออกมาเลย มีเพียง “ข่าวหุ้น” นี่แหละที่คอยนำเสนอข้อมูลต่างๆ ส่วนราคาหุ้นเมื่อวานนี้กระเด้งขึ้นมาได้ 1.00 บาท ปิดที่ 112.50 บาท หลังจากระหว่างวันขึ้นไปสูงสุด 114 บาท แต่มีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง

*อมตะ AMATA ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “ไม่มีวันตาย” หลังจากราคาร่วงลงไป 5-7 วันทำการติดต่อกัน เดิมก็นึกไปว่า จะหลุด 20 บาทแน่นอน แต่วานนี้ดีดขึ้นมา 1.10 บาท ปิดที่ 22.30 บาท เปลี่ยนแปลง 5.19% และมีแนวโน้มที่จะวิ่งขึ้นได้อีกจากสัญญาณทางเทคนิคที่ก่อนหน้านี้เข้าเขตขายมากเกินไป และตอนนี้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามากันคึกคัก วอลุ่มเทรดพุ่งกว่า 1,150 ล้านบาท แนวต้านถัดไป 21.80 บาท / 23.60 บาท

*อินโดรามาฯ หรือ IVL เป็นอีกตัวที่เข้าเขตขายมากเกินไป ราคาร่วงมาจาก 55 บาท และวานนี้ทำให้เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาแล้ว เริ่มมีการรีบาวด์เบาๆ สวยๆ ค่อยๆ วิ่งขึ้นมา แต่ในด้านพื้นฐานยังโดดเด่นในกลุ่มปิโตรเคมี แนวโน้มกำไรปี 2561 จะยกซดมากกว่าปี 2560 ราคาเป้าหมาย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ยังให้ไว้ 80 บาท ส่วน บล.ดีบีเอสฯ ให้ไว้ 65 บาท แต่ไม่ว่าราค่าเป้าหมายของโบรกฯไหน ก็ยังมีอัพไซด์เหลือเป็นทุ่ง

*หุ้นโรงพยาบาล CHG ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ราคาหุ้นร่วงทำยังกับเจ้าของจะปิดกิจการ (ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแน่นอน) ราคาหลุดจาก  2.00 บาท มาอยู่ที่ 1.87 บาท ส่วนก่อนหน้านี้ก็ปรับลงมาเรื่อยๆ เข้าใจว่า นักลงทุนมีความกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับคู่แข่งใหม่จากสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ที่เปิดให้บริการไปเมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค.60 แม้ว่าศูนย์การแพทย์แห่งใหม่จะตั้งอยู่บริเวณสมุทรปราการ แต่กลุ่มเป้าหมายผู้ป่วยแตกต่างกัน ไม่มีผลกระทบต่อ CHG ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ นักวิเคราะห์คาดกันว่า จะเติบโตมากกว่ากลุ่มร.พ. และ CHG จะเติบโตมากสุดด้วย ราคาเป้าหมายของ บล.บัวหลวงให้ไว้ 2.90 บาท และอีกหลายโบรกฯให้ไว้ระหว่าง 2.30 –  2.80 บาท

*บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะนำกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุน Mid/Small Cap(SCBMSE) ซึ่งเป็นกองทุน ระดับ 5 ดาว จากการจัดอันดับของมอร์นิ่งสตาร์  ในกลุ่มกองทุนประเภท Equity Small-Mid cap  ซึ่งมีผลการดำเนินงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ดี สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 25.20 % สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET TRI ซึ่งอยู่ 19.01%  (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ก.พ. 2561)

Back to top button