ย่ำก่อนขึ้น

* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังตกอยู่ในภวังค์ จึงมีลักษณะอาการ “เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย” ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ไกล เพราะแรงซื้อไม่หนาแน่นมากพอที่จะดันให้ดัชนีขึ้นไปทำยอดใหม่ที่สูงกว่าเดิม ขณะที่แรงเทขายก็ไหลออกมาแบบเสียไม่ได้ ภาพของการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ถึงมีลักษณะแทงกั๊ก และทำให้ดัชนีต้องย่ำก่อนขึ้นที่บริเวณ 1,800 จุดอีกพักใหญ่ๆ นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังตกอยู่ในภวังค์ จึงมีลักษณะอาการ “เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย” ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้ไกล เพราะแรงซื้อไม่หนาแน่นมากพอที่จะดันให้ดัชนีขึ้นไปทำยอดใหม่ที่สูงกว่าเดิม ขณะที่แรงเทขายก็ไหลออกมาแบบเสียไม่ได้ ภาพของการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ถึงมีลักษณะแทงกั๊ก และทำให้ดัชนีต้องย่ำก่อนขึ้นที่บริเวณ 1,800 จุดอีกพักใหญ่ๆ นะจะบอกให้

* เมื่อเหตุการณ์ไม่ยอมออกหน้าใดหน้าหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงมั่นใจเกิน 100% ว่า หุ้นบลูชิพจะถูกดันๆ ทุบๆ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนด แต่รวมๆ หุ้นยังพยายามยกฐานสูงขึ้นตลอดเวลา จึงเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเคาะหุ้นสั้นๆ เพื่อเลี้ยงกระแสไว้ก่อน ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ทำให้อ่านทิศทางการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นได้ง่ายขึ้น เดี๊ยนถึงพยายามเชียร์ให้แฟนคลับเล่นรอบไงล่ะคะ

* ด้วยเหตุนี้ถึงไม่ต้องกังวลการแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบของดัชนี ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,809.90 จุด บวกไป 9.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.18 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นช็อตของการโยกพอร์ตไปมาของนักลงทุนสถาบัน แต่สุดท้ายก็กลับเข้ามาซื้อใหม่อยู่ดี “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะเป็นเดือดเป็นร้อนไปทำไม ในเมื่อของมันเห็นเต็มสองลูกตาว่า ไม่มีอะไรต้องกลัวน่ะซี

* เหมือนกับการแกว่งตัวไปมาของ PTTGC โดยหุ้นพยายามเทกตัวผ่านแนวต้าน 100 บาทหลายครั้ง สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จตามใจหวังสักที ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดบริเวณ 96.75 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพราะเป็นสเต็ปการขึ้นแบบพื้นๆ ว่ากันไปตามกำไรที่ทำได้ในแต่ละงวดนะจะบอกให้

* เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC ทะยานขึ้นอย่างช้าๆ แบบไม่กระโตกกระตาก จากหุ้นที่เคยยืนอยู่แถว 190 บาทต้นๆ เมื่อปลายเดือนก่อน มาเห็นอีกทีหุ้นก็ขึ้นมายืนอยู่ที่ 207 บาท ลบไป 1 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.75 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการย่ำก่อนขึ้นที่ชัดเจนสุดของการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ พร้อมกันนี้ลองตรวจดูสักนิดหนึ่งว่า P/E 20 เท่ามันสูงเกินไปหรือเปล่า? ถ้าไม่สูง..ก็ลุยต่อเลย ถ้ามองว่าสูงเกินไป..ก็ถอยก่อนเจ้าค่ะ

* เหมือนกับในรายของ SGP ทะยานขึ้นมาปิดที่ 29.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 9.20% ด้วยมูลค่า 796 ล้านบาท “โมนิก้า” ยังมองว่า เป็นจุดที่สามารถเทรดได้แบบชิวๆ เพราะเมื่อลองส่องกล้องดูค่า P/E 8.90 เท่า ก็บอกได้ทันที น่าจะเป็นระดับที่ถูกเกินไปสำหรับหุ้นที่มีเรื่อง growth เป็นธงนำ แถมวานนี้เริ่มปล่อยหมัดเด็ดในการเพิ่มยอดขาย จึงเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูแบบใกล้ชิดนะคะ

* คล้ายกับกรณีของ MTLS มีสตอรี่เกี่ยวกับการเติบโตเป็นตัวขับเคลื่อน แต่ไม่วายโดนมือดีทุบเอาของจนสะบักสะบอม ล่าสุดดูเหมือนหุ้นจะเริ่มตั้งลำได้อีกครั้ง จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาเรื่อยๆ จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 38.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 848 ล้านบาท ก็เป็นอีกช็อตที่น่าสนใจสำหรับนักโหนกระแส แถมพรายกระซิบเม้าท์มอยให้ฟังว่า ไตรมาส 1 โต 40% ตามเป้าชัวร์ป้าบ! ลุยไปเลยลูกพี่!

* ส่วนที่ร้อนแรงแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้าอย่าง WP ก็เป็นช็อตที่มาเหนือความคาดหมาย แถมเป็นการตั้งใจดันราคาแบบสุดตัว หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.95 บาท บวกไป 1.35 บาท หรือขึ้นไป 20.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 271 ล้านบาทแบบง่ายดาย อีกทั้งพรายกระซิบแนะนำให้จับตาดูยุทธวิธีการเคาะขวาเที่ยวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ ย่อมเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่เดี๊ยนอยากให้แฟนๆ ตามเชียร์แบบเกาะขอบเวทีนะจะบอกให้

* ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่เริ่มผงกหัวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับลองหันมามอง ROBINS ทะยานขึ้นเป็นวันที่ 2 พร้อมด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 64 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 190 ล้านบาท ก็เป็นจังหวะที่น่าตามไปดูอีกเช่นกัน แต่มีข้อแม้ว่า วันนี้ต้องยืนบวกให้ได้เสียก่อน ต่อจากนั้นจะมีลุ้นถึงระดับ 70 บาทอีกรอบนะคะ

* ส่วนรายที่ลุ้นไม่ขึ้นจริงๆ “โมนิก้า” ขอมองย้อนกลับไปที่หุ้นมะเขือเผา TASCO ยังคงมีแรงเทขายพรั่งพรูออกมาตลอดเวลา จนสภาพของหุ้นยับเยินเสียหายอย่างหนักนั้น ล้วนเป็นผลมาจากผลงานไม่เข้าตากรรมการ และดูเหมือนปี 2561 จะออกอาการย่ำแย่กว่าปีก่อน วานนี้ถึงโดนสาดแบบหนักๆ อีกรอบ หุ้นถึงลงมานอนกลิ้งอยู่ที่ 18.60 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 240 ล้านบาทไงล่ะคะ

Back to top button