ได้เวลาสอย MINT หลังเป็นขาลงมานาน โบรกฯ ชี้ Q1/61 กำไรทุบนิวไฮ รับอานิสงส์ท่องเที่ยวไทย

ได้เวลาสอย MINT หลังเป็นขาลงมานาน โบรกฯ ชี้ Q1/61 กำไรทุบนิวไฮ รับอานิสงส์ท่องเที่ยวไทย โดยให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 50 บาท


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT โดยนักวิเคราะห์มีการประเมินว่าผลการดำเนินงานของ MINT ในปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังบริษัทมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ พร้อมคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 6.09 พันล้านบาท โตกว่าปีก่อน 12.5% ทั้งจากธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอาหาร และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า

โดยธุรกิจโรงแรมจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ หลังภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว รวมถึงความต้องการท่องเที่ยงยังขยายตัวได้อีกมาก อีกทั้งการปรับปรุงห้องพักอย่างต่อเนื่องจะช่วยหนุนให้มีรายได้เฉลี่ยของห้องพัก (RevPar) ที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ในธุรกิจอาหารในไทยและจีน คาดว่าจะสดใสหลังมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น และมีแผนขยายสาขา พร้อมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า ที่คาดว่าจะสดใสตามกำลังซื้อที่ดี รวมทั้งการรุกตลาดออนไลน์ และเปิดตัวแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง

โดยราคาหุ้น MINT ปิดตลาดวานนี้ (15 มี.ค.61) ที่ระดับ 39 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.64% สูงสุดที่ระดับ 39.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 577.03 ล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น MINT ในราคาพื้นฐานปี 2561 ที่ 50 บาท/หุ้น เนื่องจากมองว่าบริษัทยังมีศักยภาพทำกำไรที่ดีจากแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง บวกกับราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 18.3% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2561 (วิธี DCF) ที่ 50 บาท และมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 60 หุ้นละ 0.40 บาท คิดเป็น Div. Yield 0.95% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 เม.ย.61 และจ่ายปันผล 27 เม.ย.61

ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุคงคำแนะนำ ”ซื้อ” ในราคาพื้นฐาน 50 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีก 18% โดยคาดว่าปี 2561 ธุรกิจของ MINT ยังมีแนวโน้มที่สดใส พร้อมประเมินว่ากำไรหลักปี 61 จะเพิ่มได้อีก 21% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับธุรกิจโรงแรมมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง จากภาวการณ์ท่องเที่ยวไทยที่คึกคัก โรงแรมต่างประเทศอย่าง Tivoli โปรตุเกส บราซิล ฟื้นตัว และโรงแรมที่ปิดปรับปรุงจะกลับมาเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2/61ขณะที่ธุรกิจอาหารที่ไทยจะได้ประโยชน์จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัว ส่วนงบดุลคาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นจากการใช้สิทธิ์ของ MINT-W5 ช่วยเพิ่มฐานทุนให้ใหญ่ขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มกำไรของ MINT ในช่วงไตรมาส 1/61 มีโอกาสทำนิวไฮ โดยรับอานิสงค์จาก Peak Season ของการท่องเที่ยวในไทย ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2018 คาดว่ายังคงสดใสจากทุกธุรกิจที่เติบโต และที่สำคัญจะเป็นปีที่ MINT ให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น

พร้อมประมาณการกำไรปกติปี 2561 เติบโต 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำ New High ต่อเนื่อง ส่วนราคาหุ้นในสัปดาห์เศษที่ผ่านมาปรับตัวลงเกือบ 10% ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการเติบโต จึงมองเป็นจังหวะในการเข้า “ซื้อ” โดยยังคงราคาเหมาะสมที่ 48 บาท

Back to top button