ปรับกลยุทธ์การลงทุน พร้อมจัดธีม 16 หุ้นน่าเก็บรับมือตลาดฯขาลง

ปรับกลยุทธ์การลงทุน พร้อมจัดธีม 16 หุ้นน่าเก็บรับมือตลาดฯผันผวน


ภาวะตลาดหุ้นไทยภาวะตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นสัปดาห์ยังคงปรับตัวลดลงอย่างหนัก จากความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศหากต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ภายหลังจากที่มีข่าวออกมาว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะส่งเรื่องพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ให้กับทางศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าโรดแมพทางการเมืองอาจเลื่อนออกไป

ขณะที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศยังลงชะลอการลงทุนลดความเสี่ยงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ  (เฟด) จะเกิดขึ้นในวันที่ 20-21 มี.ค.นี้

นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศยังมีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นแรงจนเกินราคาพื้นฐาน “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยังคงปรับตัวน้อยกว่าตลาด และยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นรับปัจจัยพื้นฐาน

นอกจากนี้ยังทำการรวบรวมบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นหุ้นปลอดภัย (Defensive) ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดขาลงน้อยกว่าบริษัทจดทะเบียนรายอื่น

สำหรับหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีดังนี้  AH, TVO, BPP, PLANB, SC, SEAFCO, WHA ,PTTEP ,SC, INTUCH, SNC, TVO ,BCH ,RJH, UNIQ ,SEAFCO

 

ด้าน บริษัทเอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (19 มี.ค.61) กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำขายทำกำไรหุ้นแพง ราคาหุ้นเกิน Fair Value หรือมี upside เหลือน้อย เช่น PTT, AOT, TOP, EA, TRUE, SCCC, GPSC, HMPRO เป็นต้น และเข้าลงทุนในปลอดภัย ดังนี้

– หุ้นเติบโตโดดเด่น โดยฝ่ายวิจัยคัดกรองหุ้นที่มี ASP Score ในเกณฑ์ดี (มากกว่า 5) และมี Upside เกินกว่า 10% ได้แก่ AH, TVO, BPP, PLANB, SC, SEAFCO, WHA และ PTTEP มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการฯ และ Fair Value ขึ้นอีก 25 บาท หากว่าสามารถประมูลแหล่งบงกชกลับมาได้

– หุ้น Defensive ผันผวนต่ำ คัดกรองโดยเลือกหุ้นที่มี ASP Score ในเกณฑ์ดี (มากกว่า 5), มี  Upside เกินกว่า 10%, Expected P/E ปี 2561 ต่ำกว่า 15 เท่า, Div. Yield สูงกว่า 3% และมี Beta น้อยกว่า 1 ฝ่ายวิจัยแนะนำ SC, INTUCH, SNC, TVO

– หุ้น Laggard   คือ  กลุ่มโรงพยาบาล :  BCH ([email protected]) มีการปรับประมาณการกำไรและ Fair Value ขึ้นจากการปรับเพิ่มค่าบริการของประกันสังคม และการฟื้นตัวของ World Medical Hospital (WMC) ราคาปัจจุบันมี upside 15.6% รวมทั้ง RJH ([email protected]) ผลประกอบการเด่น และมี Upside คงเหลือมากที่สุดในกลุ่มฯ ราว 49%

และ กลุ่มรับเหมาฯ : UNIQ (FV@B24) ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง อัตรากำไรดีสุดในกลุ่มฯ Backlog ในมืออยู่ในระดับสูง ทั้งยังมี upside สูงถึง 80% รวมทั้ง SEAFCO (FV@B12) Backlog อยู่ในระดับสูง ทั้งยังมีโอกาสได้งานโครงการภาครัฐและเอกชนเข้ามาต่อเนื่อง โดยจะเริ่มรับรู้รายได้โครงการใหญ่เต็มที่ตั้งแต่ 2Q61 เป็นต้นไป ราคาปัจจุบันมี upside 33%

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button