JAS เดินแผนขายสินทรัพย์เข้า “JASIF” 7 หมื่นลบ. จ่อชงผถห. 11 พ.ค.นี้!

JAS เดินแผนขายสินทรัพย์เส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวน 980,000 คอร์กิโลเมตรให้ "JASIF" มูลค่า 5-7 หมื่นลบ. จ่อชงผถห. 11 พ.ค.นี้!


บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2561 มีมติอนุมัติการจำหน่ายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวนไม่เกิน 980,000 คอร์กิโลเมตรของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTB ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ให้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) โดยธุรกรรมการขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มมีมูลค่ารวมประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทได้แบ่งการขายออกเป็น 2 รอบ ดังนี้ 1.) การขายเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มให้แก่กองทุนฯ จำนวนประมาณ 750,000 -850,000 คอร์กิโลเมตร (ธุรกรรมการขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มครั้งที่ 1) คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในต้นปี 62 (ระยะเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง) โดยมีมูลค่ารายการประมาณ 35,000-45,000 ล้านบาท

รวมทั้ง 2. การขายเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่ม (ที่เหลือ) ให้แก่กองทุนฯ จำนวนประมาณ130,000 – 230,000 คอร์กิโลเมตร (ธุรกรรมการเช่าทรัพย์สินส่วนเพิ่มครั้งที่ 2) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายหลังจากธุรกรรมการขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มครั้งที่1 เสร็จสิ้น โดยมีมูลค่ารายการประมาณ 15,000 – 25,000 ล้านบาท

ส่วนธุรกรรมการเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่ม แบ่งเป็นธุรกรรมการเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่ม ซึ่งมีรายละเอียดของเส้นใยแก้วนำแสงตามสัญญาขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มครั้งที่ 1 (รวมถึงสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า)จะมีมูลค่าประมาณ 27,711-51,152 ล้านบาท และธุรกรรมการเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่ม ซึ่งมีรายละเอียดของเส้นใยแก้วนำแสงตามสัญญาขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มครั้งที่ 2 (รวมถึงสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า) จะมีมูลค่าประมาณ 3,740-11,888 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 39,599-54,892 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติการจองซื้อหน่วยลงทุนที่ออกใหม่ของกองทุนฯ โดยบริษัทหรือบริษัทย่อยของบริษัทประสงค์จะจองซื้อหน่วยลงทุนที่ออกใหม่ของกองทุนฯ เพิ่มเติม

เบื้องต้นคาดว่าจะจองซื้อหน่วยลงทุนจำนวนไม่เกินหนึ่งในสาม (หรือประมาณไม่เกินร้อยละ 33.33) ของจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกใหม่ทั้งหมดของกองทุนฯ มูลค่าสูงสุดประมาณ 16,667-23,333 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกรรมการจองซื้อหน่วยลงทุนครั้งที่ 1 มูลค่าสูงสุดประมาณ 11,667-15,000 ล้านบาท และ ธุรกรรมการจองซื้อหน่วยลงทุนครั้งที่ 2 มูลค่าสูงสุดประมาณ 5,000-8,333 ล้านบาท

โดยการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เป็นการขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของธุรกรรมเกี่ยวกับการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์อันเนื่องมาจากการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน ซึ่งได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ครั้งที่ผ่านมา

ทั้งนี้ TTTBB คาดว่า TTTBB จะเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจากกองทุนฯ โดยมีระยะเวลาการเช่าประมาณ 12 ปี ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวใกล้เคียงกับระยะเวลาการเช่าเส้นใยแก้วนำแสงเดิมตามสัญญาเช่าหลักเส้นใยแก้วนำแสงจำนวนประมาณร้อยละ 80 ของเส้นใยแก้วนำแสงของกองทุนฯ ตามธุรกรรมครั้งแรก

อย่างไรก็ดี TTTBB อาจเช่ายาวกว่า 12 ปี เพื่อให้สัญญาเช่าสิ้นสุดลงเมื่อสิ้นอายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามของ TTTBB (วันที่ 29 ม.ค.75) เช่น ประมาณ 13 ปี 10 เดือนนับจากปัจจุบัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาระหว่าง TTTBB และกองทุนฯการเข้าทำธุรกรรมการเช่าทรัพย์สินส่วนเพิ่มนั้นอยู่บนเงื่อนไขว่า TTTBB สามารถบันทึกบัญชีธุรกรรมการเช่าทรัพย์สินส่วนเพิ่มในลักษณะสัญญาเช่าดำเนินงาน (Operating lease) ตามมาตรฐานการบันทึกบัญชีที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน

ขณะที่ TTTBB คาดว่าอัตราค่าเช่าเริ่มต้นของเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจะเท่ากับอัตราค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสงเดิมที่มีผลอยู่ ณ วันที่การเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มเริ่มต้นขึ้น และจะปรับขึ้นค่าเช่าในลักษณะเดิม คือ ปรับขึ้นตามอัตราการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคแต่ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี

นอกจากนี้ อาจเป็นไปได้ว่า TTTBB อาจต้องขยายอายุของสัญญาเช่าเส้นใยแก้วนำแสงเดิม และสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสงเดิม ตามธุรกรรมครั้งแรก (ซึ่งจะหมดอายุลงในวันที่ 22 ก.พ.69) ออกไปจนถึงวันสุดท้ายของสัญญาเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่ม (“ธุรกรรมต่อขยายอายุสัญญาเช่าเดิม”) ซึ่ง ณ ปัจจุบัน TTTBB และกองทุนฯ ยังไม่ได้มีข้อตกลงกันในส่วนนี้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงยังไม่สามารถคำนวณมูลค่าขนาดรายการของธุรกรรมต่อขยายอายุสัญญาเช่าเดิมได้ในครั้งนี้

รวมถึงอนุมัติการแต่งตั้งบริษัท เจวีเอส ที่ปรึกษาการเงิน จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงินอิสระในการจัดทำความเห็นต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสำหรับธุรกรรมการขายทรัพย์สินส่วนเพิ่ม ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ธุรกรรมการเช่าทรัพย์สินส่วนเพิ่ม และธุรกรรมจองซื้อหน่วยลงทุน ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลในการเข้าทำรายการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าว และดำเนินการจัดส่งความเห็นดังกล่าวให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ พร้อมหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเสนอมติดังกล่าวต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เพื่อพิจารณาในวันที่ 11 พ.ค.61 โดยการขายสินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียกับการเข้าทำรายการข้างต้น

Back to top button