หมดอารมณ์?

*ต้องเรียนกันตามตรงว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงขาดข่าวดีหนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักเล่นเกิดอาการตายด้านกันเป็นแถว เพราะมองไม่เห็นโอกาสทองในการทำกำไรเมื่อไล่ราคาหุ้นขึ้นไปสูงๆ ส่งผลให้ทุกคนหันมาเล่นเกมทุบหุ้นเพื่อเซ็ตเกมราคาต่ำกันอย่างถ้วนหน้าแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้ในทันทีว่า อารมณ์มันไม่ได้จริงๆ เลยไม่มีกำลังใจเคาะขวาไงล่ะคะ..อิอิอิ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ต้องเรียนกันตามตรงว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงขาดข่าวดีหนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักเล่นเกิดอาการตายด้านกันเป็นแถว เพราะมองไม่เห็นโอกาสทองในการทำกำไรเมื่อไล่ราคาหุ้นขึ้นไปสูงๆ ส่งผลให้ทุกคนหันมาเล่นเกมทุบหุ้นเพื่อเซ็ตเกมราคาต่ำกันอย่างถ้วนหน้าแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้ในทันทีว่า อารมณ์มันไม่ได้จริงๆ เลยไม่มีกำลังใจเคาะขวาไงล่ะคะ..อิอิอิ

*เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นเหมือนกับที่คาดคะเนไว้ และไม่รู้จะมีอะไรเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นอีกในอนาคต “โมนิก้า” ถึงเข้าใจการเทขายหุ้นตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนฉุดดัชนีลงมายืนปิดที่ 1,766.92 จุด ลบไป 18.07 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.42 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นผลมาจากข่าวร่ำลือเกี่ยวกับงบไตรมาส 1 ไม่แจ่ม! สภาพของหุ้นยอดนิยมหลายตัวถึงจวนเจียนจะหลุดแนวรับสำคัญนะจะบอกให้

*วันนี้ถึงต้องเรียนกันตามตรงว่า วันนี้มีข่าวดีใหม่ๆ ที่สามารถจับต้องได้บ้าง? วันนี้มีหุ้นตัวไหนที่ไม่โดนกองทุนกระหน่ำขายบ้าง? หรือแม้กระทั่งวันนี้ประเทศไทยมีธุรกิจด้านไหนดีโดดเด่นบ้าง? “โมนิก้า” มองเป็นประเด็นหลักที่จะทำให้ดัชนีเด้งกลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง เพราะการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ตั้งอยู่บนความคาดหวังลมๆ แล้งๆ ที่เกิดขึ้นให้เห็นในแต่ละวันนะเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้น TMB โดนผลกระทบเรื่องงดเว้นค่าฟีแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่ตัวเองเป็นเจ้าแรกที่นำร่องเรื่องดังกล่าวก่อนใครเพื่อน สุดท้ายต้องมาเจ็บหนักจากกลยุทธ์ในการดึงลูกค้าค่ายอื่นให้มาใช้บริการของตัวเอง หลังแบงก์ค่ายอื่นเอาคืนด้วยวิธี “หนามยอก..เอาหนามบ่ง” ราคาหุ้นเลยรูดลงมาปิดที่ 2.52 บาท ลบไป 0.22 บาท หรือลงไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.94 พันล้านบาทแบบนี้..สละเรือก่อนดีไหม?

*อาการตื่นตกใจที่ยังมีอยู่ประปรายทำให้หุ้น FSMART ยังเจอมรสุมแรงเทขายกระหน่ำอย่างหนักหน่วงต่อไปอีกหนึ่งวัน ส่งผลให้หุ้นทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ 9.80 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 234 ล้านบาท เท่ากับเป็นแรงกดดันให้นักเล่นเกิดอาการ “ขี้หดตดหาย” มากขึ้นไปอีก จึงต้องทำใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้มากเป็นพิเศษ เพราะหนทางของหุ้นตัวนี้เต็มไปด้วยขวากหนามน่ะซี

*เหมือนกับในรายของ BANPU ยังคงมีแรงเทขายออกมาเป็นระยะ ทั้งที่เรื่องคดีความที่ค้างคามานานก็เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้รู้ว่า ข่าวดีที่เกิดขึ้นในภาวะหุ้นใหญ่โดนกระทำชำเรา มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักเท่าไหร่ หุ้นถึงไหลลงจากระดับ 24 บาท ลงมาปิดที่ 19.80 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.35 พันล้านบาทแบบนี้ เขาเรียกอาการดังกล่าวว่า ซึมลงนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ SPRC ทำท่าเหมือนมีแรงฮึดสู้ตลอดเวลา พอเอาเข้าจริงกลับอ่อนปวกเปียกอย่างไม่น่าเชื่อ หุ้นถึงไหลลงแบบไม่มีแตะเบรก จนล่าสุดลงมายืนอยู่ที่ 16.30 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 956 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือน แถมยังปิดตรงแนวรับเส้น 200 วันที่บริเวณ 16.30 บาทแบบนี้ วันนี้ต้องลุ้นจนถึงหยดสุดท้ายนะจ๊ะ

*คล้ายกับกรณีของ TOP ราคาหุ้นไหลรูดลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะโดนสาดหนักโครมเดียว จนหุ้นลงมากองอยู่ที่ระดับ 90.75 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท พร้อมกับทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือนครึ่ง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของบรรยากาศของการลงทุนไม่เอื้อ รวมทั้งหุ้นวิ่งขึ้นมารับข่าวเยอะพอสมควรแล้ว จึงเป็นจังหวะของการถอยร่น เพื่อลงไปเซ็ตเกมใหม่อีกครั้งพะย่ะค่ะ

*ส่วนที่แปลกประหลาดจริงๆ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้นรถไฟฟ้า BTS ขยับขึ้นมาปิดที่ 8.30 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 920 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้ายืนสงบนิ่งไม่ไหวติง บวกกับมีวอลุ่มเข้ามามากกว่าปกติ จึงน่าจะเป็นช็อตของการไหลตามน้ำที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เดี๊ยนถึงกล้าเชียร์พวกขาลุยให้เดินหน้าเข้าใส่ทันที เพราะแก๊ปการขึ้นของหุ้นมีไม่เยอะน่ะซี

*ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่แหวกกระแสขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอโฟกัสมุมกล้องไปที่หุ้นโรงพยาบาล BDMS หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 23.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.33 พันล้านบาท มันเป็นการดันหุ้นกลับแบบน่าประหลาดใจเหลือเกิน จากต้นเดือน ก.พ. ย่ำฐานต๊อกต๋อยอยู่แถว 22.40 บาท วันนี้กลับมาผงาดบนกระดาน most active ด้วยวอลุ่มที่แน่นขนัด คงต้องมีอะไรดีมาโชว์แน่ๆ เจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของ HANA อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า การทะยานขึ้นมาปิดที่ 32.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 195 ล้านบาท เป็นการกลับทิศอย่างถาวร หรือแค่การรีบาวด์ธรรมดาๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาการเคาะหุ้นวันนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะมันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการ “ตามน้ำ” หรือ “ถอยฉาก” จึงห้ามกะพริบตานะคะ

Back to top button