กองทุนดันหุ้น (อีกแล้ว)

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่าง “เข้าใจ เข้าถึง” ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ภาพการเล่นหุ้นในเที่ยวนี้ถึงมีเรื่องตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา ซึ่งเป็นจังหวะการลงทุนที่เหมาะกับพวกใจกล้าบ้าบิ่น (ไม่เกี่ยวกับเจ๊บ้าบิ่น คดีหวย 30 ล้านบาท) “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเคาะเบาๆ อย่าผลีผลามในจังหวะที่กองทุนต้องการดันหุ้นเพื่อไปปล่อยของนะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยอย่าง “เข้าใจ เข้าถึง” ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ภาพการเล่นหุ้นในเที่ยวนี้ถึงมีเรื่องตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา ซึ่งเป็นจังหวะการลงทุนที่เหมาะกับพวกใจกล้าบ้าบิ่น (ไม่เกี่ยวกับเจ๊บ้าบิ่น คดีหวย 30 ล้านบาท) “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเคาะเบาๆ อย่าผลีผลามในจังหวะที่กองทุนต้องการดันหุ้นเพื่อไปปล่อยของนะจ๊ะ

*ยิ่งเห็นตัวเลขกองทุนตัวแสบมียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ระดับ 3,335.65 ล้านบาท บวกกับฝรั่งตาน้ำข้าวควักเงินดันหุ้นอีก 1,479.49 ล้านบาท “โมนิก้า” บอกได้ในทันทีว่า เกมหุ้นเที่ยวนี้น่ากลัวเหลือเกิน! เพราะคุณๆ ท่านๆ เคยเห็นพวกหัวโจกเหล่านี้สาดหุ้นแบบไม่ยั้งมาแล้วหลายครั้ง จนดัชนีร่วงลงจากระดับ 1,850 จุด ทรุดลงมายืนแถว 1,800 จุด ก่อนจะไหลลงสู่ระดับ 1,750 จุด ก่อนจะเด้งขึ้นอีกครั้งเมื่อลงมาแตะระดับ 1,720 จุด..จำได้ไหมคะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” มองการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,751.27 จุด บวกไป 11.35 จุด ด้วยมูลค่า 5.55 หมื่นล้านบาท  น่าจะเป็นการซื้อกลับเหมือนทุกครั้งที่เคยเป็นมา ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ “ขายบน ซื้อล่าง” เหมือนที่เดี๊ยนว่าไว้ไม่มีผิดเพี้ยน และถ้าดูจากการดันให้ขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญจุดแรก น่าจะมีไม้ใหญ่ๆ เคาะเพื่อล่อแมงเม่าให้ช่วยเข้ามารับช่วงต่ออีกทีหนึ่งนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ AOT ทะยานขึ้นมาปิดที่ 70.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่า 2.73 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่น่าตามมากที่สุดในจังหวะนี้ เพราะเมื่อดูจากเค้าโครงเรื่องในอนาคตจะเห็นว่า ทุกอย่างยังไปได้ดี บวกกับหุ้นเคลื่อนตัวขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะที่ต้องตามน้ำสั้นๆ แถมกองทุนทยอยเข้าเก็บเรื่อยๆ พี่เม่าต้องกดให้หนักๆ เพื่อเอากำไรให้คุ้มนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PTTGC มองในมุมของนักเล่นรอบ ไม่จำเป็นต้องเทเงินหมดหน้าตัก การทยอยเก็บหุ้นอย่างช้าๆ น่าจะเป็นหนทางที่ช่วยให้เหล่านักเล่นหายใจได้คล่องขึ้น ไม่ต้องนั่งลุ้นจนหลังบิดหลังงอ เพราะหุ้นขยับขึ้นอีกรอบ จึงเหลือแก๊ปให้นั่งลุ้นเล็กๆ ยิ่งมองกรอบวิ่งของหุ้นอยู่แถว 100 บาทเป็นที่ตั้ง เทียบกับราคาปิด 97.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่า 1.12 พันล้านบาท บอกได้คำเดียวว่า ระทึกใจสุดๆ พะย่ะค่ะ

*ส่วนในรายของ BDMS กลับมาเป็นดาวรุ่งของวงการหุ้นอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ มีแรงซื้อไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 23.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 1.09 พันล้านบาท “โมนิก้า” เดาว่ามาจากหลายประเด็นด้วยกัน และหนึ่งในนั้นย่อมมีเรื่องกองทุนตัวแสบเข้ามาลากร่วมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน คนเล่นหุ้นเที่ยวนี้ถึงต้องหาจังหวะเข้าออกเร็วไว้ก่อนเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของปูนใหญ่ SCC เห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า นี่เป็นหุ้นที่กองทุนตัวแสบ “เล่นเอง ชงเอง กินเอง” การทะยานขึ้นของหุ้นถึงเป็นแบบวูบๆ วาบๆ ค่อนข้างมีแพทเทิร์นแน่นอนตายตัว ซึ่งเห็นได้จากหลายรอบที่ผ่านมา หุ้นขยับขึ้นลงในบริเวณ 500 บาทมาหลายครั้งด้วยกัน ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 492 บาท บวกไป 10 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 1.99 พันล้านบาท มันส่อเค้าจะเข้าอีหรอบเดิมนะจ๊ะ

*ส่วนที่ดูเหมือนจะผิดแผกแหวกแนวขึ้นมานิดหนึ่ง “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปยังหุ้นบ้านแสนสิริ SUPER ทะยานขึ้นมาอย่างร้อนแรง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 0.91 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่า 270 ล้านบาท อาจเป็นจังหวะที่เรียกเสียงฮือฮาได้เยอะพอสมควร แต่ประวัติเก่าเคยเห็นมาก่อนแล้วว่า ช่วงที่หุ้นพีคสุดๆ ต่อจากนั้นก็รูดลงมาเป็นปี จำได้ไหมเอ่ย?

*ส่วนหุ้นไฟแรงเว่อร์อย่าง SQ ถูกดันขึ้นมาปิดที่ 3.74 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่า 92 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของเกมหุ้นที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องคาดหวังอะไรมากนัก เพราะเที่ยวนี้เขายังใช้สูตรเกมบุก ทุกอย่างเลยดูสวยงามไปหมด แต่หลังจากนั้นคงหายหน้าหายตาไปเหมือนกับครั้งก่อนที่มีแต่ข่าวร้ายเต็มไปหมดกระมัง!

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอต่อกันที่การขายฝันของหุ้น TTCL กันสักนิดหนึ่งดีกว่า! เพราะดูเหมือนการทวงความยิ่งใหญ่ในเที่ยวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกวันนี้ก็เห็นกันอยู่แล้วว่า ข่าวร้ายเยอะแยะเต็มไปหมด! แถมยังมีตีมึนในเรื่องที่ชาวบ้านรู้กันหมดแล้ว ไม่สวยงามเลยนะคุณพี่ ยิ่งเห็นแรงเทขายกดหุ้นลงมาปิดที่ 7 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 7.90% ด้วยมูลค่า 84 ล้านบาท เดี๊ยนถึงอยากถามว่า ช่องนี้จะเอาอะไรไปสู้กับเขา?

*เช่นเดียวกับในรายของ GUNKUL ออกอาการกระเสาะกระแสะมาเป็นเวลานาน จนเดี๊ยนมองไม่เห็นโอกาสฟื้นตัวจะเกิดขึ้นในเร็ววัน หุ้นถึงมีสุขภาพทรุดโทรมลงตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงไม่เข้าใจบางคนมาตั้งแง่เรื่องคำพูดคนปากมากอย่างอิฉัน ก็ของมันเห็นกันทนโท่ว่า มีปัญหา ก็ต้องบอกว่า มีปัญหา จะให้บอกดีได้อย่างไร? หรือถ้าดีจริง วานนี้หุ้นคงไม่ร่วงลงมาปิดที่ 2.70 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 80 ล้านบาทหรอกค่ะ

Back to top button