Action = Reaction

*หากประมวลสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นฉากๆ ตอนๆ ก็คงเหมือนนิยายน้ำเน่าที่มีบทตบจูบเยอะเหลือเกิน ฉากหวานๆ ซึ้งๆ ทำให้ทุกคนแฮปปี้ มักจะโผล่มาให้เห็นนานๆ สักครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับอารมณ์ของตลาดหุ้นให้ได้เร็วที่สุด เพราะอาการสวิงสวายจะเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ผู้เล่น “ซื้อผิดจังหวะ ขายไม่ถูกเวลา” นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากประมวลสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นฉากๆ ตอนๆ ก็คงเหมือนนิยายน้ำเน่าที่มีบทตบจูบเยอะเหลือเกิน ฉากหวานๆ ซึ้งๆ ทำให้ทุกคนแฮปปี้ มักจะโผล่มาให้เห็นนานๆ สักครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับอารมณ์ของตลาดหุ้นให้ได้เร็วที่สุด เพราะอาการสวิงสวายจะเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ผู้เล่น “ซื้อผิดจังหวะ ขายไม่ถูกเวลา” นะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้อย่าถามถึงเหตุผลการรีบาวด์ขึ้นมาปิดที่ 1,771.56 จุด บวกไป 16.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท เพราะมันมีคำอธิบายจากปากผู้รู้เยอะแยะไปหมด บ้างก็บอกเป็นอย่างนั้น บ้างก็บอกเป็นอย่างนี้ “โมนิก้า” จึงขอสรุปแบบง่ายๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันก็คือ มันนี่เกม! ซึ่งเป็นคำตอบที่น่าจะทำให้ทุกคนเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเองได้ดีขึ้นกว่าเดิมไงล่ะคะ

*นอกจากนี้หากวัดการเด้งขึ้นของดัชนีด้วยสัญญาณเทคนิคจะเห็นว่า จุดแนวรับสำคัญยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันก็อย่าลืมว่า แนวต้านสำคัญก็ฝ่าขึ้นไปไม่ง่ายเหมือนกัน ส่งผลให้ดัชนีกลิ้งไปกลิ้งมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พร้อมกับมีการเม้าท์ถึงกฎของฟิสิกส์ที่ว่าด้วย “Action = Reaction๐” ซึ่งว่าด้วยเรื่อง แรงกระทำต้องมีการสะท้อนกลับ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นจริงในโลกจริงไหม?

*สุดท้าย “โมนิก้า” ก็ได้คำตอบจากเรื่องดังกล่าวว่า จริงครึ่งเดียว! เพราะการสะท้อนกลับในเที่ยวนี้เกิดขึ้นแค่บางส่วน บวกกับแนวต้านซอยถี่ขึ้นตลอดเส้นทางวิ่งกลับไปหายอดเดิมบริเวณ 1,800 จุด จึงมีประเด็นให้นักเล่นต้องวางแผนตลอดเวลา อีกทั้งข่าวสารใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ก็มีแต่เรื่องที่ทำให้หดหู่ใจ นักเล่นถึงต้องตื่นตัวตลอดเวลาเพื่อรับมือกับเรื่องที่คุมไม่ได้ไงล่ะจ๊ะ

*เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นกับ BANPU ทุกคนลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ท้องฟ้าอันสดใสรออยู่ข้างหน้า ราคาหุ้นน่าจะได้เวลาแรลลี่สักที พอเอาเข้าจริงกลับมีถูกถล่มออกมาไม่หยุดหย่อน จนวานนี้หุ้นลงมากองอยู่ที่ 19.30 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.49 พันล้านบาท ทั้งที่ชาวบ้านชาวช่องบวกกันโครมๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าคิดเหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้น? นะออเจ้า

*ส่วนในรายของ GLAND โดนถล่มอย่างไม่ปรานีปราศรัย 2 วันติด ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่ชาวหุ้นต้องสำเหนียกไว้เยอะพอสมควร เพราะการขึ้นของหุ้นตัวนี้ไม่มีอะไรเป็นธรรมชาติสักอย่าง พอถึงตอนลงถึงเละเป็นโจ๊กอย่างที่เราๆ ท่านๆ เห็นกัน ณ เวลานี้ ล่าสุดหุ้นลงมาปิดที่ 2.26 บาท ลบไป 0.44 บาท หรือลงไป 16.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 203 ล้านบาท เลยทำให้หุ้นตัวนี้น่ากลัวขึ้นไปอีกนะคะ

*เม้าท์ถึงเรื่องน่ากลัวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันหน้าไปมองหุ้น SCI สักนิดหนึ่งเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่สวยงามของหุ้นตัวนี้ หลังราคาหุ้นไหลลงมาปิดที่ 4.02 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยวอลุ่มที่เบาบาง พร้อมกับทำ new low นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น แถมเป็นการปิดต่ำกว่า IPO ที่ขายให้แมงเม่าตอนนั้นในราคา 5.90 บาท มันทำให้ความมั่นใจของผู้เล่นหดหายลงไปเยอะเลยเจ้าค่ะ

*ส่วนที่พลิกล็อกถล่มทลายอย่าง DIGI ก็เป็นอะไรที่พูดยากมากๆ อีกเช่นกัน เพราะการขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้เป็นผลมาจากซีอีโอ “โค้วยู่ฮะ” ซึ่งเป็นดีลเลอร์ขายรถอีซูซุทุ่มเงินเกือบ 100 ล้านบาท เข้าถือหุ้นมากถึง 20% พร้อมกับมีลุ้นเปลี่ยนธุรกิจอสังหาฯสู่ยานยนต์ ราคาหุ้นก็เลยเด้งขึ้นมาปิดที่ 0.59 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 11.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50 ล้านบาท เดี๊ยนเลยหน้าแตกไปตามระเบียบ ส่วนหุ้นจะไปต่อหรือไม่..ต้องลุ้นกันต่ออีกยกนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SCN กระชากขึ้นมาปิดที่ 3.94 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไป 15.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54 ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่มีอะไรในก่อไผ่ แถมรถเมล์เอ็นจีวีก็ยังติดๆ ขัดๆ อีกทั้งโปรเจกต์ต่างๆ ก็ยังไม่รู้ว่า มีอะไรเป็นรูปธรรมบ้าง “โมนิก้า” ถึงขอเตือนพวกมือใหม่หัดเทรดต้องรู้จักวิธี cut loss หากสถานการณ์ในวันนี้ไม่สดใสเหมือนเช่นวันวาน..อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้พานให้นึกถึงหุ้นหวยออนไลน์ขึ้นมาในทันที เพราะการถีบตัวขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น LOXLEY ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 2.42 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ วอลุ่มถึงไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อน เพราะต่อให้มีการแก้กฎหมายเพื่อให้ทำได้จริงๆ ก็คงมีขั้นตอนอีกเยอะแยะตามมาเป็นพรวนจริงไหม? แล้วจะได้ทำเมื่อไหร่ล่ะพ่อคุณ!

*ทำแน่ๆ เพราะประโคมข่าวกันมาเยอะ และนานเหลือเกินคงเป็นเรื่อง EEC หลังมหาเศรษฐี “แจ๊ค หม่า” แห่งอาณาจักรอาลีบาบาขนเงินมาลงทุนเป็นหมื่นล้าน และวันนี้จะมีการลงนามร่วมกับรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ น่าจะเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้หุ้น WHA ภายใต้บังเหียน “น้องจูน” กระชากขึ้นมาปิดที่ 3.98 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 942 ล้านบาท เพราะเป็นคนมีที่ดินเยอะสุดตรงนั้นเจ้าค่ะ

*ส่วนอีกหนึ่งรายที่พรายกระซิบแนะให้ชำเลืองตาดูอย่างหุ้น AJA ก็เป็นช็อตที่นักเล่นต้องตามดูไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน เพราะมีข่าวร่วมทุนกับอาลีบาบารุกธุรกิจโลจิสติกส์อีกเช่นกัน ซึ่งเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง “โมนิก้า” จึงถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าเอาใจช่วย เพราะหากทำสำเร็จตามแผนที่วางไว้จริงๆ..ชีวิตเปลี่ยนทันทีนะจะบอกให้

Back to top button