สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 เม.ย. 61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้น IBM รวมทั้งรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ “Beige Book” ซึ่งระบุว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐได้แสดงความกังวลว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 ยังคงปิดในแดนบวก เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นเกือบ 3% เมื่อคืนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,748.07 จุด ลดลง 38.56 จุด หรือ -0.16% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,295.24 จุด เพิ่มขึ้น 14.14 จุด หรือ +0.19% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,708.64 จุด เพิ่มขึ้น 2.25 จุด หรือ +0.08%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย และข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษร่วงลงต่ำสุดรอบ 1 ปีในเดือนมี.ค.

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 381.86 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,590.83 จุด เพิ่มขึ้น 5.26 จุด หรือ +0.04% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,380.17 จุด เพิ่มขึ้น 26.63 จุด หรือ +0.50% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,317.34 จุด เพิ่มขึ้น 91.29 จุด หรือ +1.26%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากมีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษร่วงลงต่ำสุดรอบ 1 ปีในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,317.34 จุด เพิ่มขึ้น 91.29 จุด หรือ +1.26%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีครึ่งเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะยังคงเดินหน้าปรับลดการผลิตต่อไป

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 68.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2557

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 73.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนแรงซื้อทองคำเช่นกัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 1353.50  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 46.1 เซนต์ หรือ 2.75% ปิดที่ 17.248 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 945.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 29.95 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 1,034.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ “Beige Book” เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐมีความกังวลว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2378 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2365 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4204 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4287 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7784 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7769 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.27 เยน จากระดับ 107.01 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9683 ฟรังก์ จากระดับ 0.9661 ฟรังก์

Back to top button