สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิพให้แก่บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น แอปเปิล ได้ออกมาคาดการณ์อุปสงค์ที่อ่อนแอของตลาดสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงหุ้นฟิลลิป มอร์ริส และหุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,664.89 จุด ลดลง 83.18 จุด หรือ -0.34% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,693.13 จุด ลดลง 15.51 จุด หรือ -0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,238.06 จุด ลดลง 57.18 จุด หรือ -0.78%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.02% ปิดที่ 381.95 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,391.64 จุด เพิ่มขึ้น 11.47 จุด, +0.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,328.92 จุด เพิ่มขึ้น 11.58 จุด, +0.16% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,567.42 จุด ลดลง 23.41 จุด หรือ -0.19%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคานิกเกิลและอลูมิเนียม นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,328.92 จุด เพิ่มขึ้น 11.58 จุด หรือ +0.16%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบ 3% เมื่อวันพุธ ขณะเดียวนักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งจัดขึ้นที่ซาอุดิอาระเบียในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 68.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 73.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,348.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 0.9 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 17.239 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 940.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 8.50 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,026.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีการผลิตที่ขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.40 เยน จากระดับ 107.27 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ  0.9721 ฟรังก์ จากระดับ 0.9683 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2338 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2378 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4078 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4204 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7723 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7784 ดอลลาร์สหรัฐ