จับตาผู้ถือหุ้น SGP โหวตแตกพาร์ 0.50 บ.พรุ่งนี้ ฟาก โบรกฯ การันตีผลงานปีนี้โตแจ่ม!

จับตาประชุมผู้ถือหุ้น SGP โหวตแตกพาร์ 0.50 บ.จากเดิม 1 บาท พรุ่งนี้ (27 เม.ย.) ฟาก โบรกฯ การันตีผลงานปีนี้โตแจ่ม! รับยอดขายแก๊สทั้งใน-ตปท.พุ่งกระฉูด วางเป้า 37 บาทอัพไซด์สูงปรี๊ด พ่วง P/E ต่ำ


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้นของบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP พบว่า นักวิเคราะห์มองแนวโน้มธุรกิจของ SGP มีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งในวันที่ 27 เม.ย.61 จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งมีแผนการแตกพาร์ เป็นมติที่น่าจับตามอง

โดยนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” SGP พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 37 บาทต่อหุ้น อิง PE 12 เท่า โดย SGP เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลเกิน 5% ต่อปี-PE ต่ำเพียง 9 เท่า แถมยังมีศักยภาพในการเติบโตต่อจากนี้ไปได้อีกมาก ทั้งจากยอดขายแก๊สในและต่างประเทศ, การขยายโรงไฟฟ้าในต่างประเทศและความร่วมมือกับ EGATInter, ลุ้นโอกาสนำเข้าแก๊สขายให้กับ EGAT, มี Hidden asset จำนวนมากพร้อมจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท

โดยการขายแก๊สในประเทศ ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจาก ปตท. ทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม นับแต่บริษัทเริ่มนำเข้าแก๊สเองตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้มีต้นทุนที่ถูกลง และการบริหารจัดการโลจิสติกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ปัจจุบันบริษัทนำเข้าแก๊สเองราว 50% ของปริมาณขายในประเทศ ซึ่งประมาณการกำไรมี upside risk จากการที่บริษัทเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าเองเพื่อขยายตลาดในประเทศไปสู่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้เชื่อว่าปริมาณการใช้แก๊สในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจากปีนี้ไป สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลจีนที่ประกาศ ส่งเสริมให้โรงงานอุตสาหกรรมเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด แก๊สปิโตรเลียม พร้อมทั้งสั่งลดการใช้ ถ่านหินลง คาดยอดขายแก๊สของ SGP ในจีนจะได้อานิสงส์นี้ ช่วยผลักดันยอดขาย ผนวกกับเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งยังเห็นโอกาสอีกมากในการขยายช่องทางขายแก๊สไปยังจีนตอนเหนือที่ SGP กำลังรุกเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอยู่ในขณะนี้ และอีกประเทศที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อปีที่ผ่านมา คือ บังกลาเทศ จากเดิมใช้ระบบท่อส่งแก๊สซึ่งชำรุดทรุดโทรม โดยรัฐบาลได้ทยอยยกเลิกระบบเดิม และปล่อยให้ประชาชนหันมาสั่งแก๊สบรรจุถังใช้ในครัวเรือนแทน ทำให้ระบบผูกขาดจากการส่งแก๊สผ่านท่อหมดไป และเปิดช่องให้ผู้ค้าแก๊สอย่าง SGP มีโอกาสในการได้ส่วนแบ่งตลาดจากประเทศนี้เพิ่มขึ้น

สำหรับกำไรมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าคาดจากการลงทุนในโครงการใหม่ คือ คลังแก๊ส LPG ที่มาเลเซียขนาด 5 พันตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/61 ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายในมาเลเซีย ให้ดีขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 3,000 ตัน/ปี เป็น 10,000 ตัน/ปี

รวมทั้งการร่วมทุนสร้างคลังแก๊สและท่าเรือที่อินโดนีเซียขนาด 3-5 พันตัน จะหนุนปริมาณขายเพิ่มจากจากปัจจุบันมีการส่งออกแก๊สให้ลูกค้าเพียงอย่างเดียว และการ M&A เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงขนาด 230MW ที่พม่า ซึ่งปัจจุบันบริษัทถือหุ้นอยู่ 36.1% โดยโรงแห่งนี้ได้จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว และยังมีโครงการโรงขนาดเล็กที่จะขายไฟโดยตรงให้ชุมชนที่เตรียมพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก

ขณะที่การเปิดเสรีนำเข้าแก๊สเต็มรูปแบบได้เปิดโอกาสให้ SGP ที่ร่วมกับ EGAT-I มีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานนำเข้า LNG เพื่อขายให้ EGAT ใช้ผลิต โดยขั้นแรกจะเปิดให้เอกชนเข้าประมูลก่อนที่ 1.5 ล้านตัน

ด้าน นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ SGP เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 61 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ระดับ 65,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากคาการณ์ในปีนี้ที่ระดับ 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามราคาก๊าซปิโตรเลียม (LPG) ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 580 ดอลลาร์/ตัน และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งงบลงทุนในปีนี้กว่า 2,000 ล้านบาท รองรับแผนลงทุนใหม่ ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านพลังงานครบวงจรในภูมิภาคเอเชียภายในปี 65

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/61 มีมติเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เหลือหุ้นละ 0.50 บาท จากเดิมหุ้นละ 1 บาท โดยจะเสนอมติดังกล่าวต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 61 พิจารณาในวันที่ 27 เม.ย.61

ทั้งนี้การแตกพาร์ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องหมุนเวียนในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบัน กองทุน และนักลงทุนทั่วไป สนใจเข้ามาลงทุนในหุ้น SGP เป็นจำนวนมาก แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของสภาพคล่อง ทำให้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงพาร์ใหม่

นอกจากนี้จากการสำรวจข้อมูลค่าสถิติสำคัญของ SGP ยังพบว่า ล่าสุด ณ วันที่ 24 เม.ย.61 ค่า P/E ของ SGP อยู่ที่ 9.64 เท่า ต่ำกว่าค่า P/E กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ซึ่งอยู่ที่ 14.18 เท่า และต่ำกว่าค่า P/E ของ SET ซึ่งอยู่ที่ 18.39 เท่า รวมทั้งมีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ที่ 5.08%

ส่วนราคาหุ้น SGP ปิดตลาดวานนี้ (25 เม.ย.) อยู่ที่ 30 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.69% สูงสุดที่ 30 บาท ต่ำสุดที่ 29.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 576.76 ล้านบาท ทั้งนี้ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ 37 บาท อยู่ 23%

Back to top button