กำจัดจุดอ่อน!

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงปัจจัยลบรุมเร้า มันทำให้อารมณ์ของเหล่าผู้เล่นกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจเอาเสียมาก ๆ เพราะในช่วงที่ทุกอย่างกำลังเซ็ตตัวเพื่อรอให้ทุกอย่างดีขึ้น มักมีเหตุร้ายโผล่ขึ้นมากะทันหันเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองพิจารณาถึงเหตุผลของการเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ทุกอย่างดูอึมครึมไปหมดไงล่ะคะ


เจาะกระดาน :  โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงปัจจัยลบรุมเร้า มันทำให้อารมณ์ของเหล่าผู้เล่นกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจเอาเสียมาก ๆ เพราะในช่วงที่ทุกอย่างกำลังเซ็ตตัวเพื่อรอให้ทุกอย่างดีขึ้น มักมีเหตุร้ายโผล่ขึ้นมากะทันหันเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองพิจารณาถึงเหตุผลของการเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ทุกอย่างดูอึมครึมไปหมดไงล่ะคะ

*งานนี้ไม่ได้กล่าวหากันลอย ๆ แต่เป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” พยายามเม้าท์กรอกหูตั้งแต่วันก่อนแล้วว่า การซื้อหุ้นในช่วงนี้ต้องกำหนดกรอบให้ชัดเจน เพราะสัญญาณเทคนิคโค้งตัวลงอย่างต่อเนื่อง แถมยังมีวันหยุดมาคั่นกลางสัปดาห์เข้ามาเกี่ยวข้องในทางอ้อม หรือแม้กระทั่งการปรับลดพอร์ตของกองทุนตัวแสบ กับฝรั่งตาน้ำข้าว มันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการลงทุนเต็ม ๆ นะจะบอกให้

*ผลดังกล่าวทำให้นักลงทุนทยอยขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีแรงซื้อกลับในช่วงท้ายของการเทรด ดัชนีถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,778.02 จุด บวกไป 4.82 จุด ด้วยมูลค่า 5.09 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า ในเมื่อผลประกอบการไม่หวือหวา เศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงหกล้มคลุกคลาน  จึงไม่มีประเด็นไหนที่ทำให้เชื่อว่า ดัชนีจะวิ่งขึ้นถาวร แถมครั้งนี้เป็นรอบที่ 3 ที่ดัชนีไม่สามารถยืนปิดเหนือ 1,800 จุด แล้วจะหวังอะไรได้อีกล่ะจ๊ะ

*บวกกับข้อมูลวันก่อนยืนยันว่า แนวรับสำคัญในเที่ยวนี้มีอยู่ 3 จุดใหญ่ ๆ คือ 1,760 จุด ถัดมา 1,750 จุด และท้ายสุด 1,720 จุด ย่อมเป็นการบอกถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงไม่อยากเห็นแฟนคลับใจอ่อนไปกับเรื่องที่รู้อยู่เต็มอกตูม ๆ ว่า ยังไม่มีอะไรดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ก็ไม่ควรไว้ใจอะไรทั้งนั้น เพราะสุดท้ายก็กลายเป็นตัวเองที่เจ็บตัวหนักสุดไงล่ะคะ

*สำหรับรายที่แฮปปี้เอ็นจอยสุด ๆ ในยามนี้คงไม่มีใครเกินกว่า KTC เพราะกำลังจะถูกบรรจุอยู่ในเวิลด์แรงกิ้ง จึงไม่มีใครสนใจตัวแปรที่เกี่ยวกับการขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นถึงขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 348 บาท บวกไป 13 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่า 1.61 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของกระแสที่กำลังจุดติด จึงต้องคิดกันต่อไปว่า เรื่องดังกล่าวจะเป็นจริงอ๊ะป่าวตัวเอง

*ส่วนในรายของ EA น่าจะอยู่ในข่ายดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม หลังจากเคลียร์ข่าวลือทับซ้อนหลายเรื่องได้หมดจด บวกกับมีคนคาดหมายกันว่า กำไรในไตรมาส 1 ปี 2561 จะบรรเจิดสุด ๆ หุ้นถึงกลับขึ้นมาปิดที่ 36.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 1.80 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนตัมที่นักเล่นต้องเข้าใจกันก่อนว่า เขาเชื่อกันแบบนั้นนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ SGP หากดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ราคาหุ้นก่อตัวขึ้นช้า ๆ แถมบางวันก็โดนเทขาย แต่บางวันก็มีแรงซื้อ ทิศทางของหุ้นถึงเป็นแบบ sideway up “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นกลับขึ้นมาปิดที่ 30.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 870 ล้านบาท เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า เขาให้เป้ากันไว้ที่ 37 บาทเจ้าค่ะ

*ส่วนที่แหวกกระแสตลาดขึ้นมาปิดเขียวปี๋ได้แบบเหลือเชื่อ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ AMANAH กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.87 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่า 67 ล้านบาท น่าจะเป็นการเด้งขึ้นหลังจากลงไปแตะเส้นแนวรับ 1.60 บาท แต่สุดท้ายก็มีกรอบบนขวางทางไว้ที่บริเวณ 2.00-2.10 บาท วันนี้ถึงต้องลุ้นให้วิ่งไปต่อเพื่อคนที่เข้ามาไล่ราคาทีหลังจะได้ออกของ หากไปต่อไม่ได้..เกมโอเวอร์นะจะบอกให้

*หากคิดไม่ออกให้ดูตัวอย่างจากหุ้น ASAP พยายามกระชากฝ่าเส้นแนวต้าน 25 วัน กับ 75 วันหลายครั้งด้วยกัน สุดท้ายก็ไม่สามารถฝ่าวงล้อมดังกล่าวขึ้นไปได้สักที จึงมีแรงเทขายถล่มออกมาตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายหุ้นลงมาปิดที่ 8.50 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ด้วยมูลค่า 60 ล้านบาท “โมนิก้า” ขอฟันธงลงไปเลยว่า นี่เป็นเกมชักเย่อ! ผลอาจออกมาไม่สวยสักเท่าไหร่ เพราะสตอรี่ไม่ค่อยเร้าใจน่ะซี

*ส่วนประเด็นร้อนที่แมงเม่าถึงกับร่อนจดหมายมาหา “โมนิก้า” แบบเฉพาะเจาะจงคงเป็นข่าวลือของหุ้นร้อน TSF เบี้ยวหนี้ไม่จ่ายเงินค่าสิทธิรายเดือนให้ กทม. ตามสัญญาโครงการ 691 เท่ากับเป็นฝ่ายผิดสัญญากับ กทม. แต่ทำไมถึงไม่แจ้ง ตลท. ตั้งแต่เนิ่น ๆ  ทั้งที่ข่าวเม้าท์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนเรื่องแดงขึ้นมาเสียอีก เดี๊ยนจึงทำได้แค่เพียงให้ฝั่งที่ถูกพาดพิงออกมาชี้แจงด้วยตัวเองเท่านั้น (เผือกมากเกินไปไม่งาม) ..อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องผู้บริหารออกมาชี้แจงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังแมวเก้าชีวิต “พงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์” บอสใหญ่แห่ง APEX ประกาศเดินหน้าลุยพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบสุดซอย พร้อมให้คำมั่นสัญญากับแมงเม่าว่า จากนี้ไปธุรกิจของบริษัทจะพลิกโฉมครั้งสำคัญ พร้อมกับยืนกรานหนักแน่นแผนเพิ่มทุน RO ซึ่งจะเปิดขาย 7-14 พ.ค. รับรองผ่านฉลุย..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ

Back to top button