TKN พุ่งเกือบ 8% ลุ้นกำไร Q2 ฟื้นตัวเด่น หลัง Q1 ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

TKN พุ่งเกือบ 8% ลุ้นงบฯ Q2 ฟื้นตัวเด่น โบรกฯ แนะซื้อ ชี้กำไร Q1 ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ล่าสุด ณ เวลา 11.43 น. อยู่ที่ 16.70 บาท บวก 1.20 บาท หรือ 7.74% สูงสุดที่ 16.70 บาท ต่ำสุดที่ 16.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 136.89 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ล่าสุด ณ เวลา 11.43 น. อยู่ที่ 16.70 บาท บวก 1.20 บาท หรือ 7.74% สูงสุดที่ 16.70 บาท ต่ำสุดที่ 16.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 136.89 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น TKN ปรับตัวขึ้นแรงแม้ว่ากำไรในไตรมาส 1/61 จะลดลง 11% มาที่ 151.72 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 170.92 ล้านบาท จากต้นทุนราคาสาหร่ายเพิ่มสูงขึ้นและต้นทุนของโรงงานใหม่ที่โรจนะ

อย่างไรก็ตาม บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะ”ซื้อ” TKN โดยกำไรไตรมาส 1/61 ลดลง 11% จากงวดปีก่อนตามคาด ซึ่งเชื่อว่ากำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วโดยจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส2/61 เป็นต้นไป เนื่องจากต้นทุนการผลิตลดลงจากราคาสาหร่ายล็อตใหม่ที่ลดลง

อีกทั้งต้นทุนต่อหน่วยลดลงจากอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายทั้งในประเทศและส่งออกยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง แม้ปรับลดประมาณการแต่คาดกำไรปีนี้จะเติบโต 17% จากปีที่แล้ว โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ (DCF) ที่ 21.20 บาท พร้อมปรับประมาณการปี 2561-2562 ลง 9% และ 14% ตามลำดับ สะท้อนอัตรากำไรที่ต่ำในไตรมาส 1/61

อย่างไรก็ดี คาดกำไรปกติปีนี้ฟื้นตัว 17% เป็น 787 ล้านบาท โดยกำไรจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป เนื่องจากราคาสาหร่ายล็อตใหม่ที่บริษัทนำเข้าสำหรับใช้ในช่วงไตรมาส 2/61 ถึงไตรมาส 1/62 ปรับตัวลดลงประมาณ 10% ตามราคาสาหร่ายที่ลดลงและเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาที่ 31 บาท/ดอลลาร์ (ซื้อสาหร่ายเป็นดอลลาร์) ทำให้ต้นทุนลดลงเมื่อเทียบกับต้นทุนในช่วงไตรมาส 2/60 ถึงไตรมาส 1/61 ซึ่งราคาสาหร่ายเพิ่มขึ้นอีกทั้งเงินบาทอ่อนค่าในระดับ 34-35 บาท/ดอลลาร์ นอกจากนั้น ยังได้ประโยชน์จากอัตราภาษีลดลง

ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของเถ้าแก่น้อยเพิ่มจาก 66.2% ในปี 2559 เป็นมากกว่า 70% คาดยอดขายในประเทศยังเติบโตดีจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีน เปิดสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์ 7-8 สาขาเป็น 20 สาขา และการออกสินค้าใหม่ การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องโดยการส่งออกไปจีนฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/60 หลังจากการขยายกำลังการผลิตที่โรงงานโรจนะ ซึ่งทำให้กำลังการผลิตรวมสูงสุดเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 12,000 ตัน/ปี อีกทั้งปีนี้จะจัดตั้งทีมงานเข้าไปดูแลการตลาดในจีน และหาผู้จัดจำหน่ายเพิ่มเติมด้วย

Back to top button