ปั๊มไม่ขึ้น

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ใช้เวลาอยู่กับการ นั่งเฝ้า..นอนเฝ้า หน้ากระดานหุ้นตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่า ตลาดหุ้นไทยไม่มีแรงดึงดูดมากพอที่จะทำให้นักเล่นกลุ่มสถาบันไล่ซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต ซึ่งเป็นผลมาจากตัวเลขกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่แจ่มเหมือนที่หลายคนคาดหวัง ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นมีลักษณะอืด ๆ หนืด ๆ ฝืด ๆ นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ใช้เวลาอยู่กับการ นั่งเฝ้า..นอนเฝ้า หน้ากระดานหุ้นตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่า ตลาดหุ้นไทยไม่มีแรงดึงดูดมากพอที่จะทำให้นักเล่นกลุ่มสถาบันไล่ซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต ซึ่งเป็นผลมาจากตัวเลขกำไรของบริษัทจดทะเบียนไม่แจ่มเหมือนที่หลายคนคาดหวัง ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นมีลักษณะอืด ๆ หนืด ๆ ฝืด ๆ นะจะบอกให้

*เมื่อทุกอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่มโนไว้ แถมผลงานของบริษัทไม่เลิศตามที่ตั้งใจ “โมนิก้า” ถึงเห็นโบรกเกอร์บางแห่งเริ่มปรับลดเป้าดัชนีจาก 1,900 จุด ลงมายืนแถว 1,800 จุด และโบรกเกอร์บางแห่งเริ่มพูดถึงจุดเหมาะสมอยู่ที่บริเวณ 1,750 จุด (ต้องบวกลบอีก 50 จุด) เสียด้วยซ้ำ! เดี๊ยนเลยเกิดอาการห่อเหี่ยวขึ้นมาในทันที เพราะมันหมายถึงการเทขายหุ้นต่อจากนี้จะหนาแน่นขึ้นนั่นเองจ้า

*ข้อมูลดังกล่าวทำให้ดัชนีไม่สามารถถีบตัวขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง เพราะในระหว่างทางมีแรงเทขายออกมาสกัดกั้นเป็นระยะ วานนี้ถึงเป็นอีกหนึ่งวันที่ดัชนีทำได้ดีสุดแค่การยืนปิดที่ 1,746.89 จุด ลบไป 10.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.91 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า อย่าดิ้นรนอะไรมากมายไปกว่านี้อีกเลย เพราะองค์ประกอบทางปัจจัยพื้นฐานมันเอื้อให้แค่นี้เองเจ้าค่ะ

*เหมือนกับสถานการณ์ของหุ้น ADVANC ถูกทุบลงแบบหนักหน่วงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ก็มาจากข่าวเรื่องการประมูลคลื่น 1800 ว่ากันว่า หากผู้ประกอบการเข้าร่วมประมูลคลื่นดังกล่าว โดยที่รัฐบาลไม่งัด ม.44 ออกมาช่วยเหลือค่างวดในการผ่อนชำระ บริษัทต้องแบกรับภาระหนี้หัวโตไปอีกหลายปี ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นอยู่ในโมเมนตัมที่ไม่ดี และการที่หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 194 บาท บวกไป 1 บาท ด้วยมูลค่า 1.74 พันล้านบาท จึงเป็นแค่เพียงการประคองตัวเพื่อเลือกทางระหว่าง “ขึ้น” กับ “ลง” นะจะบอกให้

*ส่วนกรณีของหุ้น BANPU กระชากขึ้นมาปิดที่ 19.90 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 658 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าเป็นช็อตของการเล่นรอบมากกว่าไล่ซื้ออย่างจริงจัง เพราะก่อนหน้านี้ทำท่าเหมือนจะไปได้สวย ปัญหาทุกอย่างเคลียร์ชัดจัดเต็ม สุดท้ายก็ไปไม่ถึงดวงดาวสักที เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นเผื่อใจกับการวิ่งของหุ้นไว้บ้าง อย่าหลงเล่นหัวปักหัวปำ จนลืมขายทำกำไรนะคะ

*ช็อตดังกล่าวคล้ายกับรายการ “ทุบแล้วดัน” ที่เกิดขึ้นกับหุ้น TKN จนบรรดาพรายกระซิบเม้าท์เป็นเสียงเดียวกันว่า หุ้นตัวนี้มีพวกนกรู้เยอะ! จึงไหวตัวก่อนคนอื่นได้เป็นประจำ และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 17.70 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 14.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 550 ล้านบาท ย่อมมีนัยแอบแฝงไว้มากพอสมควร จึงต้องระวังตัวให้มากเป็นพิเศษ เพราะเที่ยวนี้ถูกปูตัวกำไรไตรมาส 2 จะดีขึ้นไงล่ะคะ

*สำหรับหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ทำให้นักเล่นช็อกตาตั้งไปตามกันเป็นแถว “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปยังหุ้นบันเทิงเริงรำ MONO ประกาศตัวเลขกำไรลดลงราว 11% ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุกคนมองว่า ตัวเลขจะออกมาดี! เลยเกิดอาการผิดหวังไปตาม ๆ กัน จนนำไปสู่การเทขายหุ้นแบบหูดับตับไหม้ ส่งผลให้หุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 3.30 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 15.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 511 ล้านบาทอย่างง่ายดายพะย่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ESSO พอประกาศผลงานไม่ปัง..ไม่โดน แรงซื้อเลยเปลี่ยนเป็นแรงขายจำนวนมาก ฉุดให้ราคาหุ้นลงมาปิดที่ 15.70 บาท ลบไป 1.90 บาท หรือลงไป 10.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 745 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นสำหรับธุรกิจที่ยังเป็นขาขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแบบไม่ให้ใครได้ทันตั้งตัว ย่อมเป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนโสตประสาทมากเลยทีเดียว ทำให้ความคิดที่จะเข้าไปช้อนในจังหวะนี้..ผิดมหันต์นะจ๊ะ

*ขนาดหุ้นที่ทำผลงานดีอย่างเช่น PTG ยังทำได้ดีสุดแค่การขึ้นมาปิดที่ 18.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 177 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงไม่อยากหวังอะไรมากมายกว่าที่เป็นอยู่ เพราะมองในแง่ของปัจจัยพื้นฐาน ก็ไม่เอื้อให้หุ้นไปต่อสักเท่าไหร่ หรือมองในมุมของสัญญาณเทคนิค ก็ขึ้นมาติดกรอบแนวต้านพอดี จึงไม่ควรเก็บหุ้นติดพอร์ตไว้นาน ๆ เจ้าค่ะ

*ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จากหุ้นลูกเจี๊ยบ GFPT เมื่อต้นปีก่อนเพิ่งได้รับตำแหน่งหุ้นดาวงรุ่งมุ่งโอลิมปิค มาวันนี้ไม่เหลือเค้าโครงความยิ่งใหญ่อีกเลย จากหุ้นที่เคยวิ่งขึ้นไปถึงระดับ 22 บาท ล่าสุดเห็นหุ้นยืนปิดแค่ระดับ 11.80 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไปอีก 4.80% แถมเป็นการอ่อนตัวในลักษณะซึมทุกวันแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นบทเรียนอันแสนแพงของคนที่อ่อนพรรษา และถ้ามองถึงจุดเริ่มต้นของหุ้นที่อยู่แถว 8 บาท ควรจะอยู่นิ่ง ๆ ไปก่อนไหมเอ่ย ?

Back to top button