สังคมข่าวหุ้น

*หุ้น SAWAD วันก่อนหน้ามีการเข้าเก็บหุ้นจาก “ดวงใจ แก้วบุตตา” กว่า 5.74 ล้านหุ้น แต่จริง ๆ แล้วยอดซื้อมากกว่านั้น เพราะตัวเลขที่ ก.ล.ต.เผยมาล่าสุดอยู่ที่ 6,591,600 หุ้น ในราคาเฉลี่ย 37.36 บาทต่อหุ้น และเท่านั้นยังไม่พอ เมื่อวานนี้เป็นการทำรายการของคู่สมรส (ฉัตรชัย  แก้วบุตตา) ได้เข้ามาเก็บหุ้นอีก 2,550,000 ในราคาเฉลี่ย 36.72 บาทต่อหุ้น หรือสรุปแล้ว กลุ่มแก้วบุตตาเข้าไปเก็บหุ้นเพิ่มมาแล้วกว่า 9,141,600 หุ้น หรือคิดเป็นเงินรวมแล้วกว่า 339.89  ล้านบาท แต่ก็ยังไม่สามารถดึงราคากลับมาได้มากนัก


คาเฟอีน

*หุ้น SAWAD วันก่อนหน้ามีการเข้าเก็บหุ้นจาก “ดวงใจ แก้วบุตตา” กว่า 5.74 ล้านหุ้น แต่จริง ๆ แล้วยอดซื้อมากกว่านั้น เพราะตัวเลขที่ ก.ล.ต.เผยมาล่าสุดอยู่ที่ 6,591,600 หุ้น ในราคาเฉลี่ย 37.36 บาทต่อหุ้น และเท่านั้นยังไม่พอ เมื่อวานนี้เป็นการทำรายการของคู่สมรส (ฉัตรชัย  แก้วบุตตา) ได้เข้ามาเก็บหุ้นอีก 2,550,000 ในราคาเฉลี่ย 36.72 บาทต่อหุ้น หรือสรุปแล้ว กลุ่มแก้วบุตตาเข้าไปเก็บหุ้นเพิ่มมาแล้วกว่า 9,141,600 หุ้น หรือคิดเป็นเงินรวมแล้วกว่า 339.89  ล้านบาท แต่ก็ยังไม่สามารถดึงราคากลับมาได้มากนัก

*ส่วนนักวิเคราะห์จากหลายโบรกฯ ทั้งแนะนำ ซื้อ-ถือ และขาย สลับกันไป จากมุมมองที่แตกต่างหัน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ น่าจะทำให้หุ้น SAWAD ผันผวนไปอีกพักใหญ่ ๆ จนกว่าจะเข้าจุดสมดุลของตัวเองได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือจะต้องเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับคืนมาอีก การทำความเข้าใจกับกองทุน โดยเฉพาะต่างประเทศที่เข้ามาถือหุ้น

*หุ้น JASIF หลังจากก่อนหน้านี้ถูกแบงก์กรุงเทพ หรือ BBL เทขายออกมา แล้ว ล่าสุด JAS ที่เดิมอยู่อยู่ 33.33% ก็ยังขายตามออกมาอีก ทำให้เหลือสัดส่วนถือหุ้นอยู่กว่า 23% กระทั่งเกิดการงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใครกันที่เข้ามารับซื้อ พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าใช่กลุ่มไทยพาณิชย์หรือไม่ แต่พอไปดูฝั่งซื้อพบว่าผ่านกระดานต่างประเทศ ก็เลยยิ่งชวนให้คิดไปว่า หรือเป็นกองทุนจากต่างประเทศ ส่วนใครจะซื้อนั้นยังไม่สำคัญเท่าว่า JAS จะมีการขายออกมาอีกหรือไม่  แม้จะบอกว่าในช่วงเวลา 90 วัน นับจากนี้จะไม่มารขายออกมา นั่นแสดงว่าหากเกินจากนี้ ก็อาจจะขายใช่ไหม

*PTTEP ราคาหุ้นพุ่งเป็นบั้งไฟร้อยเอ็ด ไล่กันสนุกสนาน จนลืมนึกไปว่า เลยราคาพื้นฐานเกือบทุกโบรกฯ มาแล้ว  และจะมีบาวงโบรกฯ ให้เป้าหมายไว้ 150 บาท แต่ก็ถือว่าสุ่มเสี่ยงที่จะถูกขายทำกำไรออกมา เพราะราคาราน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น ยังมีความผันผวน และพร้อมสะบัดลงได้ตลอดเวลา

*เมืองไทย แคปปิตอล  หรือ MTC ของเฮียชูชาติ เพ็ชรอำไพ ราคาร่วงไปอีกกว่า 3% และเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่เฮียชูชาติ บอกว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ เรื่องลบ ๆ ก็ไม่มีอะไรทั้งนั้น สินเชื่อยังมีคุณภาพดี เอ็นพีแอล 1.5% ของพอร์ตสินเชื่อรวม และที่สำคัญยังมีการกันสำรองกว่า 260% รับมือกับ IFRS9 ได้แบบสบาย ๆ และกำลังมีข่าวดีจาก พ.ร.บ.ควบคุมสถาบันการเงินที่จะออกมาเร็ว ๆ นี้ ด้วย

*หุ้นบัตรกรุงไทย หรือ เคทีซี ยังซื้อ ๆ ขาย ๆ กันได้เรื่อย ๆ ล่าสุด คุณหมอระเฑียร ศรีมงคล ยืนยันมาว่า กำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปี 2560 แน่นอน ฟันธง!!!!! โดยปีก่อนมีกำไรกว่า 3.3 พันล้านบาท ส่วนเรื่องแตกพาร์ก็ไม่มีอะไรมาก ต้องการให้รายย่อยเข้าถึงหุ้นได้มากขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าหลังประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 6 ก.ค.นี้ หาดอนุมัติ ก็น่าจะเริ่มเทรดพาร์ใหม่กันภายในเดือนก.ค.นี้นั่นแหละ ส่วนราคาหุ้นที่ขึ้นลงแรง ก็ให้หาจังหวะเข้าออกกันให้ดี

*แจ้งมาจาก “เมธ์วดี ประเสริฐสินธนาฎ” เอ็มดี บลจ.บีแคป แอสเซท ว่าจะเปิดให้จองซื้อกองทุน BCAP Enhanced Low Vol EFT หรือ กองทุน BLOVOL 1 ในกองทุนภายใต้ 5 ดัชนีอัจฉริยะ มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ หรือมีผลในการลดความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุน เสนอขายครั้งแรกในราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน จองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ -25  พ.ค. 2561 ที่ บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวงทุกสาขา และจะเปิดให้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกในวันที่ 5 มิ.ย. นี้

*ส่วนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTAM เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 185  เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่  22  พ.ค. 2561 อายุ 6 เดือน กองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ คาดได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.25% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย และกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

Back to top button