BA กลับมามีเสถียรภาพโบรกฯอัพคาดการณ์กำไรปี 61-62 แนะซื้อเป้า 17.20 บ.

BA กลับมามีเสถียรภาพโบรกฯอัพคาดการณ์กำไรปี 61-62 แนะซื้อเป้า 17.20 บ.


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA กลับมาเติบโตกำไรสุทธิ 1Q61 โต 30%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (-24%QoQ) เป็น 711 ล้านบาท ซึ่งเป็นการฟื้นตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ด้าน ASK ทรงตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปริมาณ RPK เพิ่ม 6.9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ Load Factor เพิ่มสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76.4% ด้าน Yield (ค่าโดยสาร/RPK) ลดลง 2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยหลักมาจากเส้นทางต่างประเทศที่ -9.6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เส้นในประเทศ +1.6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ไตรมาส โดยรวมแล้วรายได้ +5%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 7.5 พันล้านบาท บริษัท           ประสบความสำเร็จในการลดต้นทุน โดยต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มเพียง 2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าราคาน้ำมัน Spot ของ Jet จะเพิ่ม 20% แต่บริษัทมีการทำประกันความเสี่ยงไว้ 65% ผลกระทบเรื่องนี้จึงไม่มาก ส่วนค่าเช่าเครื่องบิน -33%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ ต้นทุน/ASK ต่ำลง 2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

แนวโน้มยังไปได้ดี – ผู้บริหารมองว่าปริมาณผู้โดยสารปี 61 จะโตได้ 7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังแข็งแกร่ง บริษัทมีเพิ่มอีก 3 Codeshare รวมเป็น 26 YTD และใน 1Q61 มีรายได้จาก Codeshare และ Interline เพิ่มเป็น 27% จาก 24% ใน 1Q60 สำหรับ Yield ผู้บริหารคาดว่าจะฟื้นตัวได้ภายในปีนี้ โดยคาด Yield ทรงตัว (จาก -2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ใน 1Q61) ด้านค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลงจากค่าเช่าที่ต่ำลงและบาทแข็ง ซึ่งไปชดเชยกับค่าเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นได้ โดยใน 2Q/3Q ปีนี้ ทำประกันความเสี่ยงราคาเชื้อเพลิงไว้ที่ 64%/30% ของปริมาณที่ใช้ สำหรับขนาดฝูงบินจะเพิ่มเป็น 40 ลำในสิ้นปี 61 จาก 38 ลำในสิ้น 1Q61 เพราะเลื่อนการขาย ATR72-500 ออกไปเป็นปี 62

โดย BA มีความสามารถในการแข่งขันสูง และช่วง Low Season ปีนี้จะดีกว่าปีก่อน (ขาดทุนน้อยลง) แล้วกลับมาเติบโตได้ดีในช่วง 4Q ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 61/62 ขึ้น 5-6% สะท้อน Load Factor ที่เพิ่มเป็น 71.5% (เดิม 70%), ลดการเพิ่มขึ้นของ Yield เป็น 0% (เดิม +2%), ค่าเช่าเครื่องบินลดลง คงคำแนะนำซื้อ – ให้ราคาพื้นฐานใหม่ 17.20 บาท (เดิม 16.80 บาท) อิงกับวิธี Sum-of-parts (มีถือหุ้นใน BDMS และ SPF)

Back to top button