“บล.โกลเบล็ก” มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ 1,744-1,774 จุด ชู 3 กลุ่มเด็ดเน้นปัจจัยบวกหนุน

“บล.โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยขานรับสหรัฐฯ-จีนระงับสงครามการค้าชั่วคราว ให้กรอบดัชนี 1,744-1,774 จุด -แนะเก็งกำไรหุ้นมีปัจจัยบวก-กำไรโต


น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ได้รับผลบวกจากสหรัฐฯและจีนได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและการค้า  และทั้งสองประเทศยังได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าชั่วคราว และปัจจัยบวกในประเทศจากรายงานสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2561 ขยายตัว 4.8% สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส พร้อมปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 61 สู่ 4.2 – 4.7% จากเดิม 3.6 – 4.6%

รวมถึง ทีมเศรษฐกิจประเทศไทยลุยโรดโชว์ดึงประเทศเป้าหมายทั้งเอเชีย ยุโรป สหรัฐ แบบรัฐต่อรัฐหรือเอกชนร่วมลงทุน หลังกฎหมายอีอีซีมีผลบังคับใช้ และบอร์ด PPP เร่ง 3 โครงการภายใต้ Fast Track นำเสนอภายในปีนี้ รวมมู ลค่าลงทุน 4.47 แสนลบ.เดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มาจาก fund flow ยังผันผวนต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนย้อนหลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.97 หมื่นล้านบาท และสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ปะทุขึ้นอีกจากกรณีชาวตุรกีเดินขบวนประท้วงกองกำลังอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์  หลังจากสหรัฐย้ายสถานทูตประจำอิสราเอลไปยังนครเยรูซาเลมเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. ว่าขัดกับกฏหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อโรดแมพการเลือกตั้ง และเป็นวันกำหนดชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดที่ 5 จากทั้งหมด 6 งวดซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าได้รับอนุญาตให้ยืดเวลาชำระได้  โดยต้องจับตาว่าคสช.จะออกมาตรา 44 มาช่วยเหลือทันหรือไม่ และในวันเดียวกันนี้ อียูจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค. ประกอบกับ สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ(PMI) ภาคบริการและภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.  สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และในเช้าวันที่ 24 พ.ค.  คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อ 1-2 พ.ค.ที่ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม 1.50-1.75%

 

ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด คาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับขึ้น  คาดดัชนี  SET ผันผวนในกรอบ 1,744-1,774 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ DTAC ได้อานิสงส์จากการเปิดประมูลประมูลคลื่น 1800 MHz ส่งผลให้กลับมามีความสามารถในการแข่งขันอีกครั้ง หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต เช่น JUBILE, ATP30, AGE, XO, SSP และTPCH รวมถึง และหุ้น EEC Play ได้แก่ WHA, AMATA, EASTW, ATP30 และ ORI

ทั้งนี้ แนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้เข้าสู่ช่วง rebound แต่มีลักษณะแกว่งในกรอบแคบหลังดิ่งลงหลุดระดับ 1,300 ดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มเข้าสู่ขาลงด้วยรูปแบบ M-shape ราคาจึงมีโอกาสจะค่อย ๆ ลดระดับลงมาตั้งหลักที่แนวรับต่าง ๆ ระหว่าง 1,235–1,275 ดอลลาร์

โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองปรับตัวลดลง ทั้งการประกาศยุติความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯเป็นการชั่วคราว และการปรับเพิ่มมุมมองของนักลงทุนว่า Fed มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้  ส่งผลให้เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง  จึงกดดันต่อทิศทางราคาทองคำให้มีแนวโน้มอ่อนลง ให้คำแนะนำซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาผ่านขึ้นเหนือ 1,295  ดอลลาร์โดยแบ่งปิดทำกำไรเป็นรอบสั้น ๆ และ trading short เมื่อราคาหลุดระดับ 1,285 ดอลลาร์

Back to top button