พาราสาวะถี

เป็นไปตามคาดม็อบอยากเลือกตั้งที่วางเป้าหมายจะบุกทำเนียบรัฐบาล สุดท้ายกลุ่มใหญ่ก็ถูกบล็อกไว้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก่อนที่แกนนำทั้ง “จ่านิว” สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และ รังสิมันต์ โรม จะประกาศยุติการชุมนุมและเข้ามอบตัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำที่สน.ชนะสงคราม ส่วนกลุ่มดาวกระจายที่นำโดย ณัฐฐา มหัทธนา ชลธิชา แจ้งเร็ว อานนท์ นำภา และ เอกชัย หงส์กังวาน ก็ไปได้ใกล้สุดแค่หน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์


อรชุน

เป็นไปตามคาดม็อบอยากเลือกตั้งที่วางเป้าหมายจะบุกทำเนียบรัฐบาล สุดท้ายกลุ่มใหญ่ก็ถูกบล็อกไว้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก่อนที่แกนนำทั้ง “จ่านิว” สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และ รังสิมันต์ โรม จะประกาศยุติการชุมนุมและเข้ามอบตัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำที่สน.ชนะสงคราม ส่วนกลุ่มดาวกระจายที่นำโดย ณัฐฐา มหัทธนา ชลธิชา แจ้งเร็ว อานนท์ นำภา และ เอกชัย หงส์กังวาน ก็ไปได้ใกล้สุดแค่หน้าที่ทำการองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์

ก่อนที่จะมีการเจรจาขออ่านแถลงการณ์โดยโบว์ ณัฐฐา หลังจากนั้นแกนนำดาวกระจายก็ถูกรวบ รวม 8 คนไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สน.พญาไท อาการสะดุดและเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสะกดกลุ่มชุมนุมที่มีแค่หลักร้อยได้ อยู่ที่การยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในการชุมนุมของศาลปกครอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำมาใช้เป็นเหตุผลในการปฏิบัติการทางกฎหมายได้

แม้ว่าแกนนำจะประกาศเคลื่อนพลไปทำเนียบรัฐบาลให้ได้ก็ไร้ประโยชน์ โดยมวลชนที่น้อยเมื่อเทียบกับกำลังของเจ้าหน้าที่ งานนี้จึงต้องยอมจำนน ส่วนของคดีความนั้นคงจะมีการตั้งข้อหาหลายกระทง อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกาศิตไว้แล้วห้ามมาทำเนียบฯ เด็ดขาด ยิ่งเห็นท่วงทำนองของ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยแล้วยิ่งเด่นชัด

จะเรียกว่าเป็นความอ่อนหัดของแกนนำก็คงไม่ใช่ เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านี้อย่างที่เห็นเคลื่อนไหวกันมาต่อเนื่องนับตั้งแต่คสช.ยึดอำนาจ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไร้เบื้องหลัง ไม่มีท่อน้ำเลี้ยง ไม่มีพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองหนุนหลัง พลังบริสุทธิ์เช่นนี้จะมีผลอย่างสำคัญต่อประเทศในอนาคต หากไม่ท้อกันไปเสียก่อน

ตามที่รังสิมันต์เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ เผด็จการคสช.นั้นอยู่กันได้ไม่นานก็ไป ส่วนใหญ่ก็อายุมากกันแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าชะตากรรมหลังพ้นจากอำนาจไปแล้วจะเป็นอย่างไร แต่คนรุ่นใหม่อย่างพวกตนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อายุยังน้อยขอเพียงให้มีอุดมการณ์ที่เด็ดเดี่ยว มุ่งมั่น ก็หวังว่าในอนาคตข้างหน้าจะประสบชัยชนะในข้อเรียกร้อง

ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดความหวังที่จะเห็นพลังของคนหลั่งไหลเข้ามาเป็นแนวร่วมนั้นคงยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่คาดหวังว่าจะถูกส่งมาจากพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมือง เพราะคนเหล่านั้นก็ถูกตามประกบจนแทบกระดิกตัวไม่ได้นับตั้งแต่การรัฐประหาร สิ่งสำคัญคือ ประเด็นข้อเรียกร้องเรื่องการเลือกตั้งสังคมส่วนใหญ่ก็ไม่ให้ความสำคัญ

อันเป็นสาเหตุมาจากที่ผู้นำเผด็จการและองคาพยพต่างออกมาตอกย้ำเรื่องการเลือกตั้งตามโรดแมปคือ กุมภาพันธ์ 2562 จึงทำให้คนส่วนใหญ่พร้อมที่จะรอ และจำนวนไม่น้อยก็ไม่อยากจะเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก ไม่ใช่เป็นเพราะชื่นชอบหรือเห็นว่ารัฐบาลคสช.มีผลงาน ขณะเดียวกันเรื่องการบล็อกคนต่างจังหวัดเข้าร่วมนั้นก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

โดยมีการจัดทำรายงานการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐที่เดินทางไปที่บ้านของผู้ชุมนุมคนอยากเลือกตั้งเป็นระยะตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา การติดตามและคุกคามถึงที่บ้านโดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเป็นไปอย่างเข้มข้นขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนในช่วงตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมจนถึงช่วงเช้าวันที่ 21 พฤษภาคมมีประชาชนอย่างน้อย 54 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมบ้าน นัดหมายพบเจอ เฝ้าติดตาม หรือถูกโทรศัพท์ติดตามความเคลื่อนไหวเป็นระยะ

โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงจำนวนเท่าที่ทราบเท่านั้น สถานการณ์ลักษณะนี้เป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นกับประชาชนในหลักหลายร้อยคนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งหมดถูกสอบถามว่าจะเดินทางไปชุมนุมในวันที่ 21-22 พฤษภาคมนี้หรือไม่ และหลายกรณีมีการขอหรือข่มขู่ไม่ให้ไปร่วมกิจกรรม ทั้งยังมีลักษณะปฏิบัติการที่รุนแรงขึ้น อาทิ การเข้าควบคุมตัวไปค่ายทหาร การนำหมายค้นเข้าตรวจค้น การนำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากไปล้อมบ้าน

บางรายมีการติดตามความเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง หรือการให้เซ็นเอกสารข้อตกลงไม่ไปร่วมการชุมนุม โดยผู้ถูกติดตามคุกคามหลายสิบคนเป็นผู้เคยถูกดำเนินคดีจากการร่วมชุมนุมเรียกร้องเรื่องการเลือกตั้งในช่วงที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้นเจ้าหน้าที่ยังเข้าติดตามกลุ่มประชาสังคมอื่น ๆ ซึ่งไม่เคยเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งแต่อย่างใด เช่น กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการขนาดใหญ่หรือคนเสื้อแดงในต่างจังหวัด ซึ่งไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมในปีนี้แม้แต่ครั้งเดียว

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าความสำเร็จในการสกัดม็อบอยากเลือกตั้งไม่ให้ไปย่างกรายใกล้รั้วทำเนียบรัฐบาลนั้น ไม่เพียงแต่แผนปฏิบัติการที่ใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเท่านั้น แต่จากกฎหมายพิเศษที่ให้อำนาจครอบจักรวาล ยังสามารถสกัดกั้นแนวร่วมต่างจังหวัดที่ถือเป็นพลังสำคัญซึ่งแกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้งคาดหวังว่าจะมาช่วยเติมเต็มให้เกมบุกทำเนียบฯ เป็นไปตามแผน

ฝ่ายกุมอำนาจอาจถือเป็นชัยชนะสำหรับการต่อกรรอบนี้ หรืออาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นแกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้งได้เคลื่อนไหวอีก แต่สิ่งที่อย่าลืมคือเงื่อนเวลาเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 ถ้าเป็นไปตามคำสัญญาปัญหาก็คงไม่เกิด แต่หากต้องเลื่อนอีกหนไม่ว่าจะด้วยข้อหาปัญหาข้อกฎหมายที่ผู้นำเผด็จการไม่อาจแทรกแซงได้ ถึงนาทีนั้นก็ไม่แน่ว่า คนอยากเลือกตั้ง (จริง ๆ) จะยังทนต่ออาการปลิ้นปล้อนต่อไปได้อีกหรือไม่

ต้องไม่ลืมว่า อารมณ์ร่วมในแง่ของการอยากเห็นความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองนั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่ปัญหาใหญ่สำหรับคนส่วนใหญ่คือปากท้อง ความเป็นอยู่ ถ้าผ่าน 4 ปีไปแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรดีขึ้น มีแค่ราคาคุยไปวัน ๆ ความอดทนของผู้คนก็มีจำกัด อย่างที่บอกมาโดยตลอดม็อบที่มีแกนนำ จัดตั้งกันเป็นระบบมันรับมือและจัดการง่าย แต่ม็อบที่เกิดจากความเดือดร้อนแล้วหลั่งไหลรวมกันโดยมิได้นัดหมาย ไม่ว่ารัฐบาลจะยิ่งใหญ่ล้นฟ้าขนาดไหนก็ยากที่จะรับมือ

Back to top button