ทุบ ปตท.

*การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในเที่ยวนี้ ทำให้สังคมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ซึ่งมีทั้งการเรียนรู้ไปในทางที่ผิด และการเรียนรู้ไปในทางที่ถูก “โมนิก้า” ถึงมีอาการละเหี่ยใจมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ เมื่อเห็นตรรกะวิบัติบางอย่างเกิดขึ้นแบบประปราย จึงเหมือนเป็นการย้ำเตือนให้เห็นว่า สังคมไทยกำลังตกอยู่ในภาวะ I'm OK-You're not OK (ฉันดี-คุณด้อย) นะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในเที่ยวนี้ ทำให้สังคมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ซึ่งมีทั้งการเรียนรู้ไปในทางที่ผิด และการเรียนรู้ไปในทางที่ถูก “โมนิก้า” ถึงมีอาการละเหี่ยใจมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ เมื่อเห็นตรรกะวิบัติบางอย่างเกิดขึ้นแบบประปราย จึงเหมือนเป็นการย้ำเตือนให้เห็นว่า สังคมไทยกำลังตกอยู่ในภาวะ  I’m OK-You’re not OK (ฉันดี-คุณด้อย) นะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ถึงมีข่าวร้ายสารพัดอย่างเกิดขึ้นเยอะแยะไปหมด ซึ่งแต่ละเรื่องก็พอทำใจยอมรับได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่รับไม่ได้เลยคงเป็นรายการสาดโคลนเพื่อบิดเบือนกลไกราคาน้ำมันในประเทศ “โมนิก้า” จึงต้องออกโรงแหกอกพวกปากปีจอทั้งหลายแหล่ที่เสนอหน้าให้ข้อมูลผิด ๆ เพราะมันทำให้สังคมไทยเกิดความสับสนกันไปใหญ่ เลยต้องออกมาเตือนสติมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลายกันอีกครั้งเจ้าค่ะ

*ก่อนจะไปถึงตรงนั้น “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูบรรยากาศการลงทุนในเที่ยวนี้สักหน่อย หลังจากถูกปกคลุมด้วยอิทธิพลหุ้นขนาดใหญ่เพียง 15 ตัว วานนี้ถึงเป็นอีกครั้งที่ดัชนีพยายามเด้งสู้ แต่สุดท้ายทำได้ดีสุดแค่ประคองตัวปิดที่ 1,753.60 จุด ลบไป 7.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.42 หมื่นล้านบาท จึงทำให้เดี๊ยนเริ่มปลงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่ควรคาดหวังอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้วนะจะบอกให้

*เหมือนกับเรื่องที่เดี๊ยนได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่เริ่มต้นว่า ราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นในเที่ยวนี้ มันเป็นเรื่องนอกเหนือการควบคุม เพราะเมื่อดูราคาน้ำมันเบรนท์ที่พุ่งขึ้นมายืนในระดับ 80 เหรียญต่อบาร์เรล ทั้งที่ช่วงต้นปีอยู่ในระดับ 40 เหรียญต่อบาร์เรล ย่อมทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันทั่วโลกสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจเป็นอย่างดีก่อนหน้านี้ พอเกิดเหตุขึ้นมาจริง ๆ กลับทำเป็นไม่เข้าใจแบบนี้..โลกมันถึงอยู่ยากขึ้นทุกวันไงล่ะคะ

*ที่น่าสนใจ คือ ระหว่างรอยต่อของข่าวสารดังกล่าว ดันเกิดปรากฏการณ์ปล่อยข่าวถล่มหุ้นพานทองแท้ PTT ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ไม่ว่าจะเป็นการขุดเงินเดือนผู้บริหารออกมาเล่นซะยับเยิน รวมทั้งช่วยกันแบนด้วยการไม่เติมน้ำมันปั๊มนี้ในช่วงวันที่ 1-7 ของทุกเดือน หรือแม้กระทั่งข่าวการตรึงราคาน้ำมันโดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเป็นคนอุดหนุน ก็ยังเป็นข่าวลบสำหรับหุ้นตัวนี้…มันคิดกันได้อย่างไรเหรอคุณพี่!

*หนักไปกว่านั้นคือ มีการตีความแบบหน้าซื่อตาใสถึงบทวิเคราะห์ของโบรกฯ ฝรั่งออกมาในทำนองลดน้ำหนัก แต่เนื้อหาข้างในกลับเป็นการอัพเป้าใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม จึงกลายเป็นช่องทางให้พวก Block Trade ถล่มเทขายหุ้นกันอย่างเมามัน พร้อมกับอ้างเหตุผลบทวิเคราะห์พวกหัวทองเขาว่าไงก็ว่าอย่างนั้น “โมนิก้า” เลยเกิดอาการควันออกหู (ฟังชัด ๆ หู นะคะ..หู..นะคะ) มากขึ้นกว่าเดิมเจ้าค่ะ

*เนื่องจากการกระทำดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นทรุดตัวสวนทางปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 52.75 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาดันหุ้นเป็นจำนวนมาก จนหุ้นขึ้นมายืนที่ระดับ 53.50 บาท เหลือลบแค่ 1.75 บาท หรือลงไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.46 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะที่บีบคั้นหัวใจดีเหลือเกิน โดยเฉพาะนักเล่นประเภทใจเสาะอารมณ์อ่อนไหวง่าย ควรถอยไปก่อนพะยะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบเป็นแบบลูกโซ่ คงหนีไม่พ้นในรายของ PTTEP ราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ระดับ 144.50 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.29 พันล้านบาท มันมีเหตุผลที่ใช้อธิบายไม่กี่เรื่อง แต่เรื่องที่ “โมนิก้า” ฟังแล้วรู้สึกแฮปปี้เอ็นดิ้งสุด ๆ น่าจะเป็นการบอกให้สังคมได้รู้ว่า take profit เพื่อรอข่าวดีชิ้นใหม่เข้ามาเสริมความมั่นใจ ซึ่งจะทำให้การเล่นรอบทำได้ง่ายขึ้นเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่กลายเป็นทุกขลาภ อย่างเช่น MINT กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้รู้ว่า การลงทุนเกินตัว และผลตอบแทนไม่ดีอย่างที่คิด ก็ทำให้นักเล่นทิ้งหุ้นอย่างไม่ดูดำดูดีในทันที หุ้นเลยรูดลงมากองอยู่ที่ 36 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 4.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นบทเรียนสำหรับนักเล่นที่ต้องอ่านเกมให้ทัน และต้องคิดต่อไปว่า ข่าวลือที่เม้าท์มอยจะซื้อหุ้นโรงแรมเพิ่มเป็น 30% ทั้งที่ตอนนี้ได้มาแค่ 8% มันจะฉุดหุ้นลงไปอีกหรือเปล่า?

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงเรื่องซื้อหุ้นซื้อกิจการขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นร้อน TK สักนิดหนึ่งดีกว่า เพราะทันทีที่มีข่าวซื้อพอร์ตลีสซิ่งต่อจากแบงก์กรุงศรี ราคาหุ้นก็เด้งรับด้วยการขึ้นมาปิดที่ 13.80 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 10.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่สร้างความมึนงงให้กับกูรูบางท่าน เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ต้องหาเงินจำนวนมากเพื่อซื้อพอร์ตดังกล่าว..หุ้นน่าจะลงมากกว่าขึ้น!..เขาว่าไว้อย่างนั้น..อิอิอิ

Back to top button