สนต้องลม

*ตลาดหุ้นไทยในช่วงขาดข่าวดี บรรยากาศไม่เป็นใจ นักเล่นออกอาการเกร็ง มองไปทางไหนก็มีแต่คนรอลุ้นทีเด็ดในช่วงต้นไตรมาส 3 มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้การเคาะขวาทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งส่งผลให้การทะยานขึ้นของดัชนีค่อนข้างขลุกขลักเป็นประจำนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักลงทุนขาประจำรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ส่วนพวกไก่อ่อนอาจไม่ค่อยชอบใจในจังหวะนี้สักเท่าไหร่นะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลาดหุ้นไทยในช่วงขาดข่าวดี บรรยากาศไม่เป็นใจ นักเล่นออกอาการเกร็ง มองไปทางไหนก็มีแต่คนรอลุ้นทีเด็ดในช่วงต้นไตรมาส 3 มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้การเคาะขวาทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งส่งผลให้การทะยานขึ้นของดัชนีค่อนข้างขลุกขลักเป็นประจำนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักลงทุนขาประจำรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ส่วนพวกไก่อ่อนอาจไม่ค่อยชอบใจในจังหวะนี้สักเท่าไหร่นะคะ

*เนื่องจากอารมณ์ค้างมากกว่าปกติ จนทำอะไรไม่ถูกสักทีนั้น มันเป็นแพตเทิร์นปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำ ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการเคาะขวา วานนี้ดัชนีถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,732.51 จุด ลบไป 21.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.44 หมื่นล้านบาท เพราะไม่มีใครอยากเข้าไปซื้อหุ้นในช่วงที่ดัชนีมีอาการเป๋หนัก “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้เจ้าค่ะ

*ที่สำคัญ คือ เวทีแห่งนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้กับพวกขี้แงมาร้องตีโพยตีพาย แต่เป็นเวทีสำหรับพวกที่ “คิดเร็ว ทำเร็ว” เมื่อเห็นจังหวะเข้าทำ ต้องรีบเข้าทำในทันที และเมื่อเห็นท่าไม่ดี ก็ต้องรีบถอย “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉย ๆ ที่หุ้นหลายตัวไปไม่สุดซอย พร้อมกับปล่อยให้ลูกหาบค้างเติ่งอยู่บนยอดดอย จึงขอเล่าถึงเหตุการณ์เดิม ๆ เพื่อเตือนสติเหล่านักเล่นให้หัดทำตัวเป็นสนต้องลมไงล่ะคะ

*เหมือนกับในรายของ EA พยายามทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ในระหว่างทางโดนเทขายเป็นระยะ สุดท้ายขึ้นมาปิดที่ 39.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  1.81 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นหนึ่งในทีเด็ดที่ต้องเริ่มพูดอีกครั้ง ก็ในเมื่อของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งว่า เริ่มมีการเข้ามาไล่ราคารอบใหม่อย่างคึกคัก จึงต้องพูดถึงหุ้นตัวนี้บ่อยขึ้นไงล่ะคะ

*เม้าท์เรื่องสนุก ๆ “โมนิก้า” ก็อยากให้หันมาดูการเคาะขวาแบบเนิบ ๆ ของหุ้น SGP จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.70 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 287 ล้านบาท มันเป็นช็อตของการตามกระแสที่น่าสนใจ แต่งานนี้ห้ามโลภมากเป็นอันขาด เพราะหุ้นมีลักษณะเริ่ม “ตั้งไข่” ค่อนข้างชัด จึงต้องวางแผนการลงทุนไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ได้ทันค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ DELTA ไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ  จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 66.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่า 150 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่หุ้นขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง และกำลังจะถูกทดสอบด้วยการเทขาย หากสามารถยืนระยะได้อย่างมั่นคง ย่อมเป็นจุดสตาร์ทที่สองสำหรับการไต่ระดับขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม จึงต้องจับตาดูวันนี้ให้ดีไงล่ะคะ

*อีกหนึ่งตัวอย่างที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับจำให้ขึ้นใจคงหนีไม่พ้น   TKN หนึ่งในหุ้นที่ทำให้แมงเม่าติดหุ้นราคาสูงกันอย่างถ้วนหน้า และเหตุผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้นมาจากความคาดหวังที่ค่อนข้างสูง เมื่อนำมาบวกกับหุ้นเทรดบนระดับที่สูงเกินจริง จึงโดนเทขายเป็นเวลายาวนาน ล่าสุดเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 18.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่า 294 ล้านบาท สะท้อนว่าเริ่มเล่นใหม่นะจะบอกให้

*ย้อนกลับมาดูที่หุ้นทางเลือกกันบ้างดีกว่า เพราะในเวลานี้มีแต่คนกล่าวถึง META กันอย่างออกนอกหน้าเลยทีเดียว “โมนิก้า” ในฐานะคนชอบแส่ไปทุกเรื่องในตลาดหุ้น ก็เห็นด้วยที่ชมรมคนปากมากจะพูดถึงกันอย่างเมามัน เพราะพัฒนาการของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดเสมอตัวที่ 2.18 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60 ล้านบาท  ทั้งที่ชาวบ้านชาวช่องปิดลบกันแดงเถือก มันน่าจะมีอะไรดีซ่อนไว้จริงไหมค่ะ

*ส่วนในรายของ PTT ต่อให้มีของดีออกมาโชว์เยอะแยะไปหมด  ก็ไม่สามารถต้านทานแรงเทขายที่มีออกมาเป็นจำนวนมากได้ หุ้นถึงทรุดตัวลงต่ออีกหนึ่งวัน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 50.75 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.22 หมื่นล้านบาท   “โมนิก้า” ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ต้องจับตาดูให้ดี ๆ หากวันนี้ยังมีแรงเทขายออกมาอีก แสดงว่าตั้งใจทุบให้จมดิน..ไม่เกี่ยวกับเรื่องอะไรทั้งสิ้นแล้วล่ะ…อิอิอิ

*สำหรับการอ่อนตัวของ BGRIM เดี๊ยนมองเป็นกิมมิคของนักผจญภัย ไม่มีเหตุผลอื่นที่อธิบายได้ดีกว่านี้อีกแล้ว แถมไม่มีข้อมูลไหนน่าเชื่อถือ เพราะการชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างกำกวม ผสมผสานกับข่าวสารที่แพร่กระจายในท้องตลาด มีแต่เรื่องน่ากลัว “โมนิก้า” จึงไม่ขอกล่าวอะไรเพิ่มเติม เพราะทันทีที่เห็นหุ้นทรุดลงไปทำจุดต่ำสุดที่  24.40 บาท ก่อนจะเด้งเบา ๆ ขึ้นมาปิดที่  25 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 7.40% ด้วยมูลค่า 1.40 พันล้านบาท มันต้องคุยกันยาวหน่อยนะคุณพี่ “ปรียนาถ”!!

Back to top button