วิกฤติคือโอกาส?โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้โดนมรสุมข่าวลบเข้ามาตลอดเวลา ทั้งที่ก่อนหน้านี้กำลังตั้งลำอย่างสวย ฐานรากเริ่มแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน นักเล่นเริ่มเข้าใจกระบวนการทำรอบเพื่อผลกำไรในพอร์ต แต่พอมาเจอข่าวเม้าท์ประเภทฮาร์ดคอร์ สถานการณ์ที่กำลังจะดีขึ้นเป็นลำดับ ก็เลยพังทลายลงไปในพริบตา แถมเป็นตัวแปรที่อยู่นอกเหนือการควบคุม มันช่วยไม่ได้จริงๆ เจ้าค่ะ


 *สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้โดนมรสุมข่าวลบเข้ามาตลอดเวลา ทั้งที่ก่อนหน้านี้กำลังตั้งลำอย่างสวย ฐานรากเริ่มแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน นักเล่นเริ่มเข้าใจกระบวนการทำรอบเพื่อผลกำไรในพอร์ต แต่พอมาเจอข่าวเม้าท์ประเภทฮาร์ดคอร์ สถานการณ์ที่กำลังจะดีขึ้นเป็นลำดับ ก็เลยพังทลายลงไปในพริบตา แถมเป็นตัวแปรที่อยู่นอกเหนือการควบคุม มันช่วยไม่ได้จริงๆ เจ้าค่ะ

*งานนี้ไม่รู้จะพูดอย่างไร? และไม่รู้จะอธิบายอย่างไร? หรือแม้กระทั่งจะป้องปากเม้าท์ ก็ยังเม้าท์ไม่ได้เลย “โมนิก้า” ถึงได้แต่ปล่อยไปตามเรื่องตามราว พร้อมกับแนะนำให้แฟนคลับจับตาสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,476.87จุด ลบไป 19.18 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.79 หมื่นล้านบาท มันเป็นจุดตัดของการกลับตัวนะจะบอกให้

*ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ นักลงทุนรายย่อยตะลุยซื้อหุ้นเข้าไปอีก 2.80 พันล้านบาท ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวโดนไฟต์บังคับเรื่องลดดอกเบี้ยเล่นงานจึงเทขายหุ้นออกมา 1.60 พันล้านบาท ขณะที่กองทุนกับปอบผีฟ้า ก็สาดหุ้นออกมา เพื่อลดความเสี่ยง บรรยากาศการลงทุนถึงดูขมุกขมัวอย่างรวดเร็ว และต้องรอจนกว่า ความจริงบางอย่างจะปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ตอนนั้นทุกคนก็จะถึงบางอ้อไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ TASCOก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคลือบแคลงสงสัยความสามารถในการทำกำไร แต่ทันทีที่ทุกคนเห็นยอดรายได้ที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 20 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 12.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.80 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่า ทุกคนเข้าใจตัวธุรกิจมากขึ้น วันนี้ถึงกลายเป็นดาวเด่นที่ทุกคนถามถึง และมีโอกาสยกฐานสูงขึ้นเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AOT  แม้ก่อนหน้านี้โดนถล่มอย่างหนักนานถึง 4 เดือน แต่ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาพยายามพลิกตัวขึ้นตลอดเวลา และดูเหมือนจะเห็นฐานแนวรับ 280 บาทได้อย่างเหนียวแน่น “โมนิก้า” จึงเห็นหุ้นพยายามไต่ระดับขึ้นเป็นระยะ ล่าสุดสวนภาวะตลาดขึ้นมาปิดที่ 302 บาท บวกไป 4 บาท  ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น มันเป็นโอกาสของคนที่เข้าใจ “ธุรกิจ” และ “หุ้น” นะจ๊ะ

*ถ้าต้องการเห็นภาพชัดๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันไปมอง TRUBB และSTAสองคู่ชูชื่นที่มาพร้อมกับความเชื่อมั่นเต็มกระเป๋ากันเลยทีเดียว งานนี้ไม่ต้องไปถามความคิดเห็นของคนนั้น คนนี้ให้เสียเวลา เพียงแค่รู้ว่า เขาเล่นประเด็นเทิร์นอะราวด์ หุ้นถึงวิ่งระเบิดเถิดเทิง ล่าสุดหุ้นวิ่งมาปิดที่2.16 บาท บวกไป 0.33 บาท หรือขึ้นไป 18% ส่วนรายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 13.70บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.80% มันเป็นภาพสะท้อนที่ย้ำให้รู้ว่า วัฏจักรของธุรกิจก็เป็นแบบนี้แหละ

*ส่วนในรายของ MLหากดูตามท้องเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะเห็นว่า มีสตอรี่เกี่ยวกับการขายกิจการมาอย่างต่อเนื่อง วันนั้นไปพัวพันกับคนนี้ วันนี้ไปพัวพันกับคนนั้น “โมนิก้า” ถึงเฝ้าดูความเคลื่อนไหวอยู่ห่างๆ เพราะเดือนกุมภาพันธ์ หุ้นรูดลงจากระดับ 3.80 บาท ลงมาทำ low ที่ระดับ 1.86 บาท ก่อนจะไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ จนวานนี้วิ่งมาปิดที่ 2.10บาท บวกไป 0.12บาท หรือขึ้นไป 6% ตามตำราเขาเรียกจังหวะนี้ว่า ต้องตามไปดู..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ PRECHAจนป่านนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาทางลบเกิดขึ้น และยังไม่มีอะไรผิดแผกไปจากพวกขาเม้าท์เกริ่นไว้เมื่อวันก่อน บวกกับเดี๊ยนเป็นคนชอบเผือกเรื่องชาวบ้าน จึงเฝ้ามองการเคาะราคาแต่ละไม้ตลอดทั้งวัน  และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปออกมาอย่างเป็นทางการว่า เช้าขึ้น บ่ายลง เกิดค้อนหัวกลับ ส่อแววหมดรอบ ปิดตลาดเลยทำได้แค่ยืนที่ 3.34บาท บวกไป 0.12บาท หรือขึ้นไป 3.70% วันนี้ถึงเป็นชอตวัดใจผู้กล้าอีกครั้งไงล่ะค่ะ

*สถานการณ์ดังกล่าวเทียบเคียงได้ TRCซึ่งเป็นหุ้นที่มีข่าวดีเต็มประตูหน้าต่าง สุดท้ายไม่สามารถฝ่าแนวต้าน  2.50 บาทขึ้นไปได้ พร้อมกับโรยตัวลงมาเรื่อยๆ จนวานนี้ลงมาปิดที่ 2.14บาท ลบไป 0.14บาท หรือลงไป 6% พร้อมกับเกิดสัญญาณอีก 3 ตัว ตามตำราเท่าที่เรียนมาจากต่างประเทศ วันนี้ต้องรีบาวด์ หากทำไม่ได้ มีโอกาสลงไปทำ lowที่บริเวณ 1.70 บาทเป็นครั้งที่ 4 นะจะบอกให้

*ก่อนจากกันขอเม้าท์ถึงหุ้นสุดเลิฟอย่าง JASเพื่อเป็นวิทยาธานสักเล็กน้อย แพตเทิร์นของหุ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาอาจยังไปได้ไม่ไกล แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่ากำลังลงเสาเข็ม 5.50 บาทให้แน่นเพื่อเปิดโอกาสกระชากขึ้นไปยืนแถว 7 บาทอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงมองว่าจังหวะนี้น่าตามน้ำจริงๆ หลังหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 5.70บาท บวกไป 0.10 บาท มันยังไปได้ไม่ไกลเลยนะตัวเอง!

Back to top button