สังคมข่าวหุ้น

*สัปดาห์นี้ต้องลุ้นว่าจะมีแรงซื้อจากบรรดากองทุนในประเทศ เพื่อทำตัวเลขสิ้นไตรมาสหรือวินโดว์เดรสซิ่งก่อนปิดงบในไตรมาส 2 หรือไม่ หากมีก็น่าจะประคองดัชนีไม่หลุด 1,600 จุดได้ แต่ที่เป็นห่วงกันตอนนี้คงเป็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ล่าสุดดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มยืดเยื้อและเข้มข้นขึ้นต่อเนื่อง


เกียรติก้อง ว่องไวยากร

*จับตาวินโดว์เดรสซิ่ง

*สัปดาห์นี้ต้องลุ้นว่าจะมีแรงซื้อจากบรรดากองทุนในประเทศ เพื่อทำตัวเลขสิ้นไตรมาสหรือวินโดว์เดรสซิ่งก่อนปิดงบในไตรมาส 2 หรือไม่ หากมีก็น่าจะประคองดัชนีไม่หลุด 1,600 จุดได้ แต่ที่เป็นห่วงกันตอนนี้คงเป็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ล่าสุดดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มยืดเยื้อและเข้มข้นขึ้นต่อเนื่อง ไม่เฉพาะระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเท่านั้น แต่ระหว่างสหรัฐฯ กับยุโรป แคนาดา และเม็กซิโกด้วย ทำให้ความเสี่ยงจากสงครามการค้าโลกเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดต่อการขยายตัวของการส่งออกและของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ขณะที่ค่าเงินในอาเซียนอ่อนยวบ หวั่นจะถูกโจมตีค่าเงินขึ้นมาอีก จนธนาคารกลางฟิลิปปินส์ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว เพื่อสกัดเงินไหลออก แต่ ธปท.ยังคงเฉยจนน่าเป็นห่วง

*หุ้นเป้าหมาย “วินโดว์เดรสซิ่ง” งวดนี้ PTT, CPALL, BBL, KBANK, ADVANC, BDMS, CPN, EA, GPSC และ TVO โดยเฉพาะตัวใหญ่อย่างหุ้น ปตท.ของเฮียเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ น่าจับตา เพราะกองทุนถืออยู่มาก อาจมีการซื้อคืนทำตัวเลข Q2 รวมทั้ง CPALL ของตระกูลเจียรวนนท์ แบงก์กรุงเทพ ของเสี่ยโทนี่ และกสิกรไทยของเสี่ยปั้นที่จะประกาศงบต้นเดือน ก.ค.นี้

*หุ้นกลุ่มส่งออก มีทั้งปัจจัยบวกและลบ ในแง่ของปัจจัยบวกคงเป็นเรื่องของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาช่วงนี้ แต่ก็มีปัจจัยลบมาจากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับนานาประเทศ หุ้นส่งออกที่ได้ประโยชน์จากค่าบาทอ่อน ยกให้ CPF ของกลุ่มซีพี, TU ของไกรสร จันศิริ ประธานกรรมการ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป, HANA ของจอห์น ทอมพ์สัน ประธานกรรมการบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส รับไปเต็ม ๆ แต่หากสงครามการค้ายืดเยื้อบานปลายก็ต้องมาดูกันว่าตัวไหนจะถูกกระทบบ้างอีกครั้ง

*กลุ่มแบงก์พาณิชย์ ใกล้ประกาศงบไตรมาสที่ 2 กันแล้ว มีหลายสำนักทำตัวเลขประมาณการออกมา มีทั้งดีและไม่ดี แต่ที่แน่ ๆ คงเป็นผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เริ่มมีผลเต็มไตรมาสนี้ โดยเฉพาะ SCB ของเฮียอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไตรมาสนี้นักวิเคราะห์คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับลดค่าธรรมเนียมเต็มไตรมาส กระทบกำไรลดลงกว่า 15.6% ส่วนแบงก์เล็ก ๆ อย่าง KKP, TISCO ของเสี่ยปลิว มังกรกนก คงไม่กระทบมากนัก เพราะรายได้ด้านนี้ค่อนข้างน้อยกว่าแบงก์ขนาดใหญ่อย่างแบงก์กรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย

*DOD น้องใหม่ หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าดูดี ราคายังสวิงค่อนข้างมาก หลังจากเข้าเทรดวันแรกปรับตัวขึ้นไปมากกว่า 50% จากราคาไอพีโอ แต่หลังจากนั้นก็ทยอยปรับตัวลดลง นักวิเคราะห์แนะให้ทยอยเก็บหากต่ำกว่า 10 บาทลงมา อนาคตค่อนข้างดี ถือหุ้นของบริษัทถือว่าเป็น GROWTH STOCK มีโอกาสในการเติบโตสูง โดยมีกลุ่ม “พรรธนประเทศ” ถือหุ้นใหญ่

*SUPER ของจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานกรรมการบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น ร่วงหนัก หลังจากก่อนหน้านี้มีการเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก แต่ก็หาตัวไอ้โม่งไม่เจอ งานนี้สงสัยจะเป็นรายเดิมที่ออกมาสาดหุ้นครั้งก่อนอีกหรือเปล่า แม้ว่าตัวผู้ถือหุ้นใหญ่จะประกาศชัดว่าไม่ได้ขายออกมา แต่หุ้นตัวนี้อาจจะถูกใจบรรดาน้องแมงเม่าที่ชอบของแรง ๆ อย่าง SUPER ก็ได้

*วานนี้ (24 มิ.ย.) ชมรมซีพีเอฟรันนิ่งคลับ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ท่าเรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมจัดงาน ซีพีเอฟ รัน ฟอร์ ชาริตี้ 2018 : วิ่งชมเขื่อนเยือนถิ่นสมเด็จโต ปีที่ 2 ที่โรงงานผลิตอาหารสัตว์ท่าเรือ ซีพีเอฟ โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมงานกว่า 1,700 คน พร้อมนำรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนกิ่งกาชาดอำเภอท่าเรือ ร่วมพัฒนาสู่เมืองแห่งความสุข ส่วนงานครั้งต่อไปจะจัดที่ วัดพระพุทธฉาย อ.เมือง จ.สระบุรี วันอาทิตย์ที่ 22 ก.ค.นี้ ชื่องาน “ชีวีรื่นรมย์ วิ่งชมสามหลั่น นมัสการพระพุทธฉาย กราบไหว้พระหยก ครั้งที่ 2” โดยเพิ่มการแข่งขันในระยะทาง 21 กิโลเมตร หรือฮาล์ฟมาราธอน ร่วมกับมินิมาราธอน และฟันรัน

*หุ้นร้อนประจำวันที่ 22 มิ.ย. 2561 ที่มีราคาและมูลค่าซื้อขายปรับขึ้นแรงและอยู่ระหว่าง (Trading Alert List) คือ บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC ทำให้เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ต้องใช้เกณฑ์ Cash Balance (ซื้อขายด้วยเงินสดทั้งจำนวน) มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.-03 ส.ค. 2561

Back to top button