สังคมข่าวหุ้น

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาดีรอบนี้ มาจากปัจจัยลบต่างประเทศเริ่มเบาบางลง นักลงทุนพอจะรับรู้กันไปแล้ว และการเข้าเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เริ่มทยอยประกาศในช่วงไตรมาส 2/2561 แต่นักวิเคราะห์ต่างก็มองว่า ยังยากที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุด อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้


คาเฟอีน

*ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาดีรอบนี้ มาจากปัจจัยลบต่างประเทศเริ่มเบาบางลง นักลงทุนพอจะรับรู้กันไปแล้ว และการเข้าเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เริ่มทยอยประกาศในช่วงไตรมาส 2/2561 แต่นักวิเคราะห์ต่างก็มองว่า ยังยากที่ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,700 จุด อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เพราะยังต้องไปดูผลประกอบการ บจ. ไตรมาส 3/2561 และปัจจัยต่างประเทศประกอบด้วย ส่วนฟันด์โฟลว์ แรงขายน่าจะเบาบางลงไปได้บ้าง และเห็นการเข้ามาดักซื้อหุ้นพื้นฐานดี ราคาหุ้นของกองทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF

*หุ้น TOP หรือไทยออยล์ หลังราคาร่วงปิดแตะ 69.00 บาทสัปดาห์ก่อน ก็นึกไปว่า จะกลับมายืนเหนือ 70 บาทแน่ ๆ แต่ที่ไหนได้ กลับวิ่งขึ้นมาแบบพรวดพราดต่อเนื่อง 3 วัน จนราคาขึ้นมายืนเหนือ 75.00 บาท จากค่าการกลับมาฟื้นตัว แต่ไม่แน่ใจว่าราคาจะขึ้นไปเหนือ 80.00 บาท ได้หรือไม่ เพราะราคาเป้าหมายของบางโบรกฯ ล่าสุดให้ไว้ที่ 85.00-90.00 บาท เว้นแต่มีปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามาหนุนราคาหุ้นได้

*วันนี้หุ้น บัตรกรุงไทย หรือ เคทีซี เริ่มใช้พาร์ใหม่ 1.00 บาท จากเดิม 10.00 บาท มีความเป็นไปได้ว่าที่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้น หรือไปต่อก็ได้ หรืออาจจะปรับลงก็ได้ โดยเมื่อวานนี้ราคาหุ้นปิด 354 บาท ดังนั้น วันนี้ ราคาอ้างอิงวานนี้ก็จะมาอยู่ที่ 34.40 บาท ส่วนนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า ประเมินหรือคาดการณ์ได้ยาก เพราะราคาหุ้นเคทีซีปรับเพิ่มมาเยอะแล้วนับจากต้นปี จึงอาจจะมีการขายทำกำไรออกมาได้

*หุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ที่มี นิตินัย ศิริสมรรถการ เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ล่าสุด เจ้าตัวออกมาบอกว่า ราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นผลกระทบมาจากที่คาดว่าทัวร์จีนจะลดลง แต่น่าจะเกิดขึ้นระยะสั้น เพราะระยะยาว หรือเป้าหมายทั้งปี ยังคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวยังเติบโตได้ 9-10% ส่วนนักวิเคราะห์เขามองกันว่า ใครเป็นนักลงทุนระยะสั้น ก็อาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนระยะยาวที่จะเข้ามาสะสมหุ้น เช่นเดียวกับหุ้นท่องเที่ยวตัวอื่น ๆ เช่น ERW, CENTEL, MINT และ SPA

*BEAUTY ของ “หมอสุวิน ไกรภูเบศ” แม้ว่าเมื่อวานนี้ราคาหุ้นปิด 8.10 บาท บวกขึ้นมาได้ถึง 8.00% แต่ยังถือว่าเป็นช่วงที่ราคาหุ้นมีความผันผวนสูง เหมาะสำหรับผู้กล้ารับความเสี่ยงสูงได้เท่านั้น ขณะที่ราคา IAA Consensus ล่าสุด อยู่ที่ 12.00 บาท แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ ราคาหุ้นที่ปรับลงมาต่อเนื่อง ทำให้มาร์เก็ตแคปวูบมาเหลือ 22,546 ล้านบาท หรือหายไปมากกว่า 1 เท่าตัว และหากครึ่งปีหลังทั้งผลประกอบการ และราคายังไม่ฟื้นตัว จะมีผลกระทบต่อการพิจารณาคงสถานการณ์เป็นหุ้นใน ดัชนี SET50 หรือไม่ เพราะหากหลุดขึ้นมาจริง ๆ ก็จะมีผลไปยังการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน ที่รวมถึงกองทุนต่าง ๆ ด้วย

*บล.CLSA ของ ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ยังคงเป้าหมายดัชนีปีนี้ไว้ที่ระดับ 1,900 จุด เพราะมองว่า ปัจจัยลบต่างประเทศจะเริ่มคลี่คลาย และการเลือกตั้งจะมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ฟันด์โฟลว์เริ่มไหลกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง แต่ก็ยังมีการเตือนสำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น ที่อาจมีความเป็นไปได้ยาก เพราะตลาดฯ ยังมีความเสี่ยงเรื่อง Block trade และการซื้อขายด้วย “หุ่นยนต์” ทำให้ตลาดหุ้นแกว่งตัว หากนักลงทุนไม่เข้าใจในความเสี่ยงอาจมีปัญหาในภายหลัง

*หุ้น TEAMG เมื่อวานนี้ ปิดเทรดวันแรกที่ 2.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท (+11.57%) จากราคาขายไอพีโอที่ 2.42 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 1,665.69 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.84 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 3.02 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.62 บาท ส่วนราคาเหมาะสมที่ บล.ทิสโก้ ให้ไว้เบื้องต้น อยู่ระหว่าง 2.78-3.00 บาท

Back to top button