เสี่ยยักษ์-เสี่ยป๋อง

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ปลายสัปดาห์ที่แล้วมาถึงสัปดาห์นี้ผมเดินทางมาประเทศนอร์เวย์

มาดู “สังคมไร้เงินสด” กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. (เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังภายหลัง) แต่ก็ยังติดตามภาวะตลาดหุ้นไทยอยู่

ล่าสุด เห็น “เสี่ยยักษ์” คุณวิชัย วชิรพงศ์ และ “เสี่ยป๋อง” คุณวัชระ แก้วสว่าง สองนักลงทุนรายใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน ออกมาโพสต์เกี่ยวกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยพร้อม ๆ กัน

การแสดงความเห็นนี้ถือว่ามีนัยสำคัญพอสมควร ไตรมาส 2 และเลยมาถึง ไตรมาส 3 แตกต่างกันลิบลับ

ดัชนีที่เคยขึ้นไปสูงสุดกว่า 1,850 จุด

กลับลงมาต่ำกว่า 1,600 จุด ก่อนจะค่อย ๆ ปรับขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็น่าจะเป็นเพียง “ชั่วคราว” เพราะเมื่อวานนี้

ดัชนีร่วงลงไปกว่า 15.83 จุด ปิด 1,627 จุด ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายเบาบาง 36,295 ล้านบาท

เสี่ยยักษ์บอกว่า นักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง และตัวเลขใกล้จะแตะระดับ 2 แสนล้านบาทแล้วในภาวการณ์นี้ มีนักลงทุนบางคนคิด “ต่อสู้”

พร้อมกับยก “ทฤษฎีนกกระจาบ” และ “ทฤษฎีต้มกบ” ขึ้นมาเพื่อให้มองเห็นภาพว่า เรากำลังเผชิญกับอะไรอยู่

อย่างกรณีทฤษฎีนกกระจาบ เสี่ยยักษ์เปรียบเทียบให้เห็นว่า เมื่อนายพรานยิงปืนแก๊ป 1 นัด ถูกบางตัว แต่นกทั้งฝูงยังรอด ทำให้นก (หรือนักลงทุน) เหล่านั้น เกิดความมั่นใจว่า “ฉันรอด”

ทว่าในที่สุด นายพรานเปลี่ยนวิธีด้วยการนำเอา “แหครอบ” นกทั้งฝูง

ทำให้ตายกันยกเข่ง

ส่วนทฤษฎีต้มกบ เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินทฤษฎีนี้

หรือเปรียบได้ว่า เมื่อตลาดขาขึ้นทุกคนยังเริงร่า

แต่พอมาเป็นขาลง และโดนคนอื่นชิงลงมือก่อน

ขณะกบหลาย ๆ ตัวยังเพลินอยู่ โดยไม่รู้ตัวว่าน้ำในกระทะที่ตนเองอยู่เริ่มจะร้อนขึ้น แต่คิดว่าตนเองทนได้ และไม่กระโดดหนี

กว่าจะมีรู้ตัวก็ขาดทุนไปเยอะแล้ว

หรือ “ติดดอย” นั่นเอง

เสี่ยยักษ์เปรียบเทียบอีกว่า ให้ซื้อหุ้นตอนตี 5

แล้วตี 5 นี้หมายความว่าอะไร

นั่นก็คือ เมื่อคนอื่นที่เล่นหุ้นมาตอนขาลง ติดดอย ขาดทุน เปรียบเทียบเหมือนโดนผีหลอกมาตั้งแต่ ตี 1 ตี 2 ตี 3 ตี 4

แต่ถ้าตอนตี 5 เราต้อง “กล้า” ตอนที่คนอื่น “กลัว” อีกอึดใจเดียว ผีจะหมด เพราะฟ้าจะสว่างแล้ว

แล้วหุ้นในพอร์ตเสี่ยยักษ์ทำอย่างไร…

เสี่ยยักษ์บอกว่า หากมองว่าตัวไหนยังดี มีอนาคต ก็ถือไว้

ส่วนตัวที่ไม่ดี ราคามันลง จนมันไม่ลงแล้ว เสี่ยยักษ์ก็ยอมรับ

รวมถึงหากจะขาย ก็ขายไม่ได้เพราะ เรามีปริมาณเยอะ ก็โดนชิงลงมือก่อนไปแล้วบ้างเหมือนกัน

แล้วเสี่ยป๋องล่ะ…

เสี่ยป๋องบอกว่า มีหลายคนเข้ามาถามเกี่ยวกับตลาดหุ้นเยอะเหมือนกัน

แต่เขาก็ตอบไปว่า “มองไม่ออก”

แต่ยังคงติดตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติว่าหมดหรือยัง

หากใกล้จะหมดแล้ว หรือเริ่มทรงตัว ก็อาจ “กลับเข้าไปซื้อ”

เสี่ยป๋องบอกว่า ต่างชาติขายเพราะดึงเงิน QE  กลับ และเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

และการขายรอบนี้ ขายทั้งภูมิภาคที่เป็น Emerging market ทั่วโลก

ส่วนพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยยังดี เมื่อดูจากตัวเลขภาครัฐที่แจ้งออกมา

เสี่ยป๋องย้ำว่า เมื่อตลาดเริ่มนิ่ง ก็จะกลับเข้าไปลงทุนใหม่อีกครั้ง

“ในช่วงนี้ผมกลัวว่าตลาดอาจจะอยู่ในช่วงปรับตัวขาใหญ่ขาหนึ่ง ซึ่งอาจจะใช้เวลาสักพัก” เสี่ยป๋องกล่าวครับ

เสี่ยป๋องยอมรับว่า การลงทุนในตลาดหุ้นปีนี้สำหรับตัวเขานั้น “ขาดทุน” อยู่