JKN บวกเกือบ6% ทำจุดสูงสุดในรอบ 1เดือน โบรกฯแนะซื้อ ชูเป้า 13.90บ. คาดรายได้ปีนี้โตแกร่ง

JKN บวกเกือบ6% ทำจุดสูงสุดในรอบ 1เดือน โบรกฯแนะซื้อ ชูเป้า 13.90บ. คาดรายได้ปีนี้โตแกร่ง โดย ณ เวลา 15.21 น. อยู่ที่ 11 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 5.77% สูงสุดที่ 10.90 บาท ต่ำสุดที่ 10.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 100.68 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ณ เวลา 15.21 น. อยู่ที่ 11 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 5.77% สูงสุดที่ 10.90 บาท ต่ำสุดที่ 10.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 100.68 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 เดือน นับตั้งแต่ราคาอยู่ที่ระดับ 11.40 บาท เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.61

ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ก.ค.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท/หุ้น โดยจากการเปิดประมูลทีวีดิจิทัลปลายปี 2556 ทำให้สถานีโทรทัศน์จากเดิมที่มี 6 ช่อง เพิ่มเป็น 25 ช่อง (รวม 3 ช่องสาธารณะ หัก 2 ช่องของไทยทีวี) และยังมีช่องทีวีดาวเทียมอีกจำนวนมาก

รวมถึงผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวีและพฤติกรรมผู้บริโภคในการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้การแข่งขันในธุรกิจทีวีและสื่อมีเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ประกอบการจึงมีความต้องการคอนเทนต์ที่ดีและต้นทุนไม่สูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายแทนการผลิตรายการเอง ทำให้ช่วงที่ผ่าน JKN มีรายได้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2557 ที่ 304 ล้านบาท เป็น 1,154 ล้านบาทในปี 2560

ทั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับบริษัทอีกขั้น ด้วยการเป็นผู้ขายคอนเทนต์ของไทยไปในต่างประเทศ ด้วยการเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายละครให้ช่อง 3 ในต่างประเทศ ยกเว้น 5 ประเทศที่ช่อง 3 ทำตลาดไว้ โดยเริ่มด้วยละคร 70 เรื่อง และคาดจะมีเพิ่มในอนาคต นอกจากนี้อาจมีช่องอื่น ๆ สนใจให้ JKN เป็นตัวแทนจำหน่าย เนื่องจาก JKN มีคู่ค้าในประเทศต่าง ๆ ที่มีการซื้อลิขสิทธิ์มาขายในไทย คาดว่าน่าจะเริ่มมีรายได้จากตัวแทนขายให้ช่อง 3 ตั้งแต่ไตรมาส 3/61

ขณะที่ในไตรมาส 1/61 ผลกำไรเติบโตดีที่ 53.4% จากปีก่อน เป็น 70.6 ล้านบาท จากรายได้ที่เติบโต 33.3% เป็น 344 ล้านบาท ตามความต้องการคอนเทนต์ที่ยังมีต่อเนื่องและการเลื่อนรับรู้รายได้จากไตรมาส 4/60 สำหรับในไตรมาส 2/61 คาดจะปิดการขายลิขสิทธิ์กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น คาดรายได้ขาย/บริการและกำไรสุทธิโต 22.3% และ 83.6% ตามลำดับ มาอยู่ที่ 340 ล้านบาท และ 67 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับในครึ่งหลัง 2561 ยังโตจากการปิดการขายลูกค้าได้เพิ่มขึ้น จากการต้องการคอนเทนต์ไปออกอากาศและยังมีรายได้จากการเป็นตัวแทนขายให้กับช่อง 3 และการขายคลิปข่าวของ CNBC ให้กับทีวีดิจิทัลและทีวีดาวเทียม จึงคาดทั้งปี 2561 รายได้โต 24.6% จากปีก่อน เป็น 1,438 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 279 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.7% จากปีก่อน และคาดเงินปันผลที่ 0.21 บาท/หุ้น

โดยประเมินราคาพื้นฐาน โดยอิง PEG ที่ 0.8 เท่าบนค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรต่อหุ้นในปี 2561-2562 หรือเทียบเท่า P/E 27 เท่า ราคาพื้นฐานปี 2561 อยู่ที่ 13.90 บาท แนะนำ “ซื้อ”

Back to top button