หุ้น Laggard

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง!...หลังจากปรับตัวรีบาวด์ทะลุ 1,650 จุด ภายหลังจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2561 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนใหญ่จะออกมาดีด้วยเช่นกัน


เส้นทางนักลงทุน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง!…หลังจากปรับตัวรีบาวด์ทะลุ 1,650 จุด ภายหลังจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2561 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนใหญ่จะออกมาดีด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเชิงกลยุทธ์ทำให้มีการเข้าเก็งกำไรในหุ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเริ่มเห็นทิศทางของนักลงทุนต่างชาติที่ส่งสัญญาณเข้ามาทยอยซื้อหุ้นไทยช่วงระยะนี้

เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นมาถือว่ายังไม่ได้อยู่ในบริเวณที่ตึงตัว จึงแนะนำนักลงทุนระยะกลาง-ยาวสามารถถือหุ้นต่อไปได้ จนกว่าดัชนีจะปรับตัวถึงระดับ 1,700 จุด

ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนใหม่ ณ เวลานี้ มองว่าจำเป็นที่จะต้องโฟกัสไปที่หุ้น Laggard คือ กลุ่มหุ้นที่ราคาขยับแบบเชื่องช้า ซึม ๆ อยู่ แม้ว่าราคาหุ้นหลายตัวขยับเพิ่มสูงขึ้น

ประเด็นดังกล่าวโฟกัสไปยังหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) ที่ยัง Laggard ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดในเดือนนี้ ได้แก่  บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO, บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB, บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU,

บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เป็นต้น

สิ่งสำคัญนอกจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดแล้ว ทางราคาหุ้นยังมีอัพไซด์เพียบเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ทางนักวิเคราะห์ได้ให้ไว้

TISCO ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 77.25 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 105 บาท ที่ทาง บล.เอเอสแอล ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 35.92%, PTTEP ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 134.50 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 145 บาท ที่ทาง บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 7.81%, TMB ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 2.26 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 2.75 บาท ที่ทาง บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 21.68%,

TU ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 16.60 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 17.50 บาท ที่ทาง บล.กสิกรไทย ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 5.42%, LH ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 12.20 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 12.50 บาท ที่ทาง บล.ฟิลลิป ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 2.46%, CPALL ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 76.50 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 95 บาท ที่ทาง บล.เคที ซีมิโก้ ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 24.18%,

BBL ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 203 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 232 บาท ที่ทาง บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 14.29%, PTT ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 51 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 55 บาท ที่ทาง บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 7.84% และ SCC  ราคาหุ้น ณ วันที่ 25 ก.ค. 2561 ปิดที่ระดับ 446 บาท หากวัดจากราคาเป้าหมาย 580 บาท ที่ทาง บล.บัวหลวง ประเมินไว้จะพบว่ามี Upside 30.04%

หุ้นแนะนำข้างต้นเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตัวอื่นในกลุ่มและภาวะตลาด (Laggard) เพราะมีความเสี่ยงต่ำกว่า และสามารถหาผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะถัดไป

Back to top button