หุ้นอสังหาฯ มีเสียว! คนซื้อบ้านโอดราคาแพงเกินเอื้อม วอนรัฐฯ คุมเพดาน

หุ้นอสังหาฯ มีเสียว! คนซื้อบ้านโอดราคาแพงเกินเอื้อม วอนรัฐฯ คุมเพดานราคาอสังหาฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า DDproperty (ดีดี พร็อพเพอร์ตี้) เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศไทย เผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 (DDproperty Consumer Sentiment Survey ครึ่งปีแรกของปี 2561) พบคนอยากซื้อบ้านส่วนใหญ่มองราคาอสังหาฯ แพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น และภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดี จึงทำให้ความพึงพอใจที่มีต่อตลาดอสังหาฯ ลดลง และอยากให้ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมการซื้อที่อยู่อาศัยรอบใหม่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมจับตากลุ่มมิลเลนเนียล อนาคตตลาดอสังหาฯ

โดยจากผลสำรวจดังกล่าว ซึ่งมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามออนไลน์จำนวนกว่า 1,000 คน พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 มองว่าอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีราคาแพง หรือราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งร้อยละ 61 ยังมองว่า ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ปรับตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยดังกล่าว ทำให้ดัชนีความพึงพอใจที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2561 ปรับตัวจากผลสำรวจรอบที่ผ่านมาลงมาอยู่ที่ร้อยละ 57 และลดลงอย่างมากจากเมื่อ 3 ปีก่อนหน้าที่ดัชนีความพึงพอใจของผู้บริโภคสูงถึงร้อยละ 68 โดยความสามารถในการซื้อที่ลดลง ผู้บริโภคกว่าร้อยละ 61 มองว่า รัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการใดๆ ช่วยสนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น

สำหรับแนวทางที่ผู้บริโภคมองว่า ภาครัฐควรสนับสนุนให้คนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น โดย อันดับ 1 ร้อยละ 69 อยากให้รัฐกำหนดเกณฑ์ราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ อันดับ 2 ร้อยละ 62 อยากให้รัฐออกมาตรการหรือนโยบายช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านหลังแรก และ อันดับ 3 ร้อยละ 45 อยากให้รัฐควบคุมอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคร้อยละ 83 มองว่าอสังหาริมทรัพย์จะมีมูลค่าสูงขึ้น ภายใน 1-5 ปี ส่วนด้านแนวโน้มการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ผู้บริโภคร้อยละ 41 กำลังพิจารณาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือน ซึ่งขยับขึ้นจากร้อยละ 36 ในครึ่งปีหลัง พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา

ด้าน นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป เปิดเผยว่า การสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง แต่ราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านหลังแรกที่กลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนเริ่มทำงาน เริ่มมีครอบครัว ที่กำลังซื้อไม่ได้สูงมาก และแม้จะมีความต้องการว่าจะตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย แต่หากในอีก 6 เดือนข้างหน้า ราคาอสังหาริมทรัพย์ยังเข้าถึงยากก็อาจจะไม่เกิดเป็นการตัดสินใจซื้อได้จริง

ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าว” มองว่า หากภาครัฐบาลต้องการสนับสนุนให้คนเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น โดยเลือกใช้แนวทางการกำหนดการตั้งราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ หรือควบคุมอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในอนาคตได้

Back to top button