สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้น ต่างประเทศประจำวันที่ 3 ส.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (3 ส.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทต่างๆที่มีการรายงานตลอดทั้งสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เพราะตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

นอกจากนี้ การเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด ก็ได้เป็นปัจจัยจำกัดช่วงบวกในตลาด อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,462.58 จุด เพิ่มขึ้น 136.42 จุด หรือ +0.54% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,840.35 จุด เพิ่มขึ้น 13.13 จุด หรือ +0.46% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,812.01 จุด เพิ่มขึ้น 9.33 จุด หรือ +0.12%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (3 ส.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่แอปเปิลสามารถทำสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.52 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 389.16 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,615.76 จุด เพิ่มขึ้น 69.43 จุด หรือ 0.55% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,478.98 จุด เพิ่มขึ้น 18.00 จุด หรือ 0.33% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,659.10 จุด เพิ่มขึ้น 83.17 จุด หรือ 1.10%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (3 ส.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดตลาดในแดนบวกเช่นกัน นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่แอปเปิลสามารถทำสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,659.10 จุด เพิ่มขึ้น 83.17 จุด หรือ 1.10%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (3 ส.ค.) ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันจากรัสเซียและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 68.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 73.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 ส.ค.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่ซบเซาของสหรัฐ

นอกจากนี้ การซื้อขายยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทอง เพราะทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,223.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค. 2560

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.7 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 15.462 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ปรับตัวขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 836.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ปรับตัวลดลง 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 907.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (3 ส.ค.) จากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก็ได้เป็นปัจจัยถ่วงค่าเงินดอลลาร์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1579 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1584 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3009 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3019 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7404 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7361 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.23 เยน จากระดับ 111.70 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9940 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9956 ฟรังก์สวิส

 

Back to top button