“ไอเอฟเอ” ชี้ GPSC ซื้อ GLOW เหมาะสม สวนทางกำไร Q2/61 ลดฮวบ! โบรกฯประเมินมีดาวน์ไซด์

"ไอเอฟเอ" ชี้ GPSC ซื้อ GLOW เหมาะสม สวนทางกำไร Q2/61 ลดฮวบ! โบรกฯประเมินมีดาวน์ไซด์


สืบเนื่องจาก บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เมื่อวันที่วันที่ 19 มิ.ย. 2561 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการลงทุนโดยการซื้อหุ้น บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,010,976,033 หุ้น คิดเป็น 69.11% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ GLOW ในราคาหุ้นละ 96.50 บาท คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 97,559 ล้านบาทนั้น ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าเป็นรายการที่มีความเหมาะสมและผู้ถือหุ้นควรอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 ส.ค. 2561

ทั้งนี้ GPSC จะเข้าซื้อหุ้น GLOW จากผู้ขาย คือ Engie Global Development B.V. ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในราคาหุ้นละ 96.50 บาท ซึ่งราคาซื้อขายดังกล่าวอาจมีการปรับลดลงได้เป็นจำนวนเท่ากับเงินปันผลจ่ายต่อหุ้น หาก GLOW มีการจ่ายเงินปันผลก่อนเงื่อนไขบังคับเสร็จสิ้นลง โดยที่ประชุมคณะกรรมการ GLOW ครั้งที่ 6/2561 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2561 อัตรา 1.608 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ราคาซื้อหุ้น GLOW สุทธิเท่ากับ 94.892 บาทต่อหุ้น

โดยรายละเอียดและเงื่อนไขที่สำคัญมีดังนี้ GPSC จะเข้าซื้อหุ้น GLOW ทางตรงเป็นจำนวน 218,696,260 หุ้นจากผู้ขาย คิดเป็น 14.95% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ GLOW ขณะที่เดียวกัน  GPSC จะเข้าซื้อหุ้น GLOW ทางอ้อม เป็นจำนวน 792,279,773 หุ้น คิดเป็น 54.16% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ GLOW โดยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดจำนวน 780,410,000 หุ้นของ บริษัท เอ็นจี โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด จากผู้ขาย และผู้ถือหุ้นรายอื่นอีก 2 ราย และภายหลังจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น GPSC มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ GLOW เป็นจำนวนทั้งสิ้น 451,889,002 หุ้น คิดเป็น 30.89% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ GLOW

สำหรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้นและการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ GLOW ข้างต้นไม่เข้าข่ายเป็นการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทางอ้อม (Back Door Listing) เนื่องจากบริษัทได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์

ด้านการพิจารณาความเหมาะสมของการเข้าทำรายการในครั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของการเข้าทำรายการ วิเคราะห์ความสามารถในการดำเนินงานโดยพิจารณาข้อมูลของ GLOW ในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ที่เกี่ยวกับนโยบายในการดำเนินงานในปัจจุบันและอนาคต การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะของธุรกิจไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียของการเข้าทำรายการ ดังนั้น สรุปได้ว่า การทำรายการดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจและการเติบโตของบริษัทในอนาคต และยังสามารถเพิ่มศักยภาพและความได้เปรียบในการแข่งขันจากความร่วมมือระหว่าง GPSC และ GLOW

ด้านราคา ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าราคาการเข้าทำรายการที่เท่ากับ 96.50 บาทต่อหุ้น หรือราคาซื้อขายหุ้น GLOW สุทธิหลังหักเงินปันผลเท่ากับ 94.892 บาทต่อหุ้นนั้นมีความเหมาะสมในด้านราคา เนื่องจากราคาดังกล่าวถือเป็นราคาที่อยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสมที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ประเมินไว้ โดยใช้วิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดซึ่งอยู่ในช่วงประเมินมูลค่าหุ้น GLOW เท่ากับ 90.28-98.77 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลพบว่า GLOW รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 มีกำไรสุทธิ 1.80 พันล้านบาท ลดลง 36.53% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.83 พันล้านบาท ขณะเดียวกันช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 4.41 พันล้านบาท ลดลง 6.72% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 4.73 พันล้านบาท

ขณะที่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ถือ” GLOW ราคาเป้าหมาย 88 บาทต่อหุ้น ซึ่งมี downside จากราคาหุ้นล่าสุดที่ 94 บาท อยู่ 6.38% โดยกำไรจากธุรกิจหลักของ GLOW ในไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 2.26 พันล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการของบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) 7% เพราะต้นทุนค่าซ่อมบำรุงที่สูงกว่าคาด

ส่วนกำไรจากธุรกิจหลักที่ลดลงเมื่อเทียบจากปีก่อน เป็นผลมาจากค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment) จากโครงการ GHEHO-1 และ GIPP ลดลงตามเงื่อนไขใน PPA ในขณะเดียวกัน ค่าความพร้อมจ่ายของโครงการ IPPs ของบริษัทกลับมีเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เนื่องจาก weight factor สูงขึ้น แต่ GPM จากโครงการ SPPs ยังลดลงเนื่องจากมีต้นทุนค่าซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น

ขณะที่ราคาก๊าซและถ่านหินก็แพงขึ้น ส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเหลือ upside อีกไม่มาก และเรายังอยากรอดู synergy ที่เกิดจากการซื้อกิจการก่อนเราจึงยังคงคำแนะนำถือ

ทั้งนี้ถึงแม้ว่ากำไรจากธุรกิจหลักในครึ่งแรกปี 61 จะคิดเป็น 57% ของประมาณการกำไรทั้งปีของบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แต่คาดว่าผลประกอบการน่าจะอ่อนลงในครึ่งหลังปี 61 จากปัจจัยด้านฤดูกาลของ IPPs (ไตรมาสที่สี่เป็นช่วง low season) ดังนั้น จึงยังคงประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 61 เอาไว้ที่ 7.89 พันล้านบาท

ส่วน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ถือ” หุ้น GLOW ราคาเป้าหมาย 89 บาทต่อหุ้น ซึ่งมี downside จากราคาหุ้นล่าสุดที่ 94 บาท อยู่ 5.32% โดยกำไรปกติไตรมาส 2/61 เพิ่มเป็น 2.26 พันล้านบาท (โต 2% เทียบจากไตรมาสก่อน) แต่ขาดทุน FX ทำให้กำไรสุทธิตกลงแรงในไตรมาสท

ทั้งนี้แม้กำไรในช่วงครึ่งแรกปี 61 จะสูงกว่าคาด คิดเป็น 54% ของประมาณการทั้งปีนี้ แต่กำไรครึ่งหลังปี 61 มีแนวโน้มต่ำกว่าครีงแรกปี 61 ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาล (ในไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วง low season ของโรงไฟฟ้า IPP) ดังนั้น จึงคงกำไรและราคาเป้าหมายเดิมไว้

นอกจากนี้ GPSC จะเข้าซื้อหุ้น GLOW ในสัดส่วน 69.11% (1,010.98 ล้านหุ้น) จากผู้ถือหุ้นใหญ่ Engie Global Development B.V. ใน ต.ค.นี้ โดยใช้เงินกู้ระยะสั้น และใน ต.ค.-พ.ย.61 จะจัดทำคำเสนอซื้อ (tender offer) ส่วนที่เหลือ 30.89% (451.89 ล้านหุ้น) ที่ราคา 96.50 บาท ซึ่งหักเงินปันผลจ่ายระหว่างกาล (ครึ่งแรกปี 61) ที่ 1.608 บาท/หุ้น ขึ้น XD เมื่อ 6 ก.ค.61 (คาดว่าไม่มีจ่ายเพิ่มอีก) จึงทำให้ราคาซื้อหุ้น 31% ใน GLOW จะลดลงเหลือ 94.892 บาท

ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ ความผันผวน ของราคาน้ำมันดิบโลก ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นไปตามคาด, การหยุดซ่อมบำรุง โรงไฟฟ้าปิดซ่อมบำรุงนอกแผน และเหตุการณ์ที่ทำให้โรงไฟฟ้าผลิตไม่ได้ และกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ การประมูลโรงไฟฟ้า IPP ที่ล่าช้า และการต่ออายุสัญญา SPP ไม่เป็นไปตามคาด

ขณะเดียวกัน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ถือ” หุ้น GLOW ราคาเป้าหมาย 91.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งมี downside จากราคาหุ้นล่าสุดที่ 94 บาท อยู่ 2.66% โดย GLOW มีกำไรปกติต่ำกว่าประมาณการของบล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี 1% และต่ำกว่า consensus 2% ใน ไตรมาส 2/61 เนื่องจากผลกระทบส่วนหนึ่งจากต้นทุนถ่านหินและก๊าซที่สูงขึ้นชดเชยด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน

ทั้งนี้กำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ลดลง 36.5% เทียบจากปีก่อน และ 31.3% เทียบจากไตรมาสก่อน เพราะต้นทุนถ่านหินและก๊าซสูงขึ้นและขาดทุน FX โดยกำไรสุทธิ 4.4 พันล้านบาทในครึ่งแรกปี 61 สอดคล้องกับคาด โดยคิดเป็น 49% ของประมาณการทั้งปี

ย่างไรก็ตาม มองว่าราคาหุ้นจะยังถูกกดดันจนถึงเดือนพ.ย.61 เนื่องจาก GPSC อยู่ระหว่างเข้าซื้อกิจการ โดยมีแผนทำคำเสนอซื้อหุ้น GLOW ในราคา 96.5 บาท

อนึ่ง ราคาหุ้น GLOW ล่าสุด ณ เวลา 12.21 น. ทรงตัวจากวันก่อนอยู่ที่ 94 บาท สูงสุดที่ 94 บาท ต่ำสุดที่ 93.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 13.62 ล้านบาท

Back to top button