เริ่มเป็นงานโมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่นต้องบอกให้สังคมชาวหุ้นรู้ว่า “โมนิก้า” เป็นคนที่ชอบเอาเรื่องราวต่างๆ มาปะติดปะต่อ เพื่อจำลองเหตุการณ์ต่างๆ จะเป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องสัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ถือเป็นช็อตเด็ดที่เดี๊ยนมักแนะนำให้นักเล่นหันมองเป็นประจำ เพราะเป็นจุดที่กำหนดการลงทุนว่า “ควรซื้อ” หรือ “ควรขาย” นะจะบอกให้


*ก่อนอื่นต้องบอกให้สังคมชาวหุ้นรู้ว่า “โมนิก้า” เป็นคนที่ชอบเอาเรื่องราวต่างๆ มาปะติดปะต่อ เพื่อจำลองเหตุการณ์ต่างๆ จะเป็นเหมือนกับที่คาดการณ์ไว้ขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องสัดส่วนการซื้อขายของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ถือเป็นช็อตเด็ดที่เดี๊ยนมักแนะนำให้นักเล่นหันมองเป็นประจำ เพราะเป็นจุดที่กำหนดการลงทุนว่า “ควรซื้อ” หรือ “ควรขาย” นะจะบอกให้

*ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ย้ำแล้วย้ำอีกว่า คนที่เริ่มอ่านเกมเป็น และเข้าใจหลักจิตวิทยา คนนั้นย่อมได้เปรียบในการลงทุน “โมนิก้า” จึงขอปรบมือดังๆ ให้กับแมงเม่าที่รู้จักพลิกจากเกมรับมาเป็นเกมรุก พร้อมกับฉวยโอกาสเทขายหุ้นทำกำไรกันอย่างสนุกมือ ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นต้องเข้ามารับของที่โยนออกมาเรื่อยๆ มันเป็นบรรยากาศสุดแสนจะรื่นรมย์ คล้ายกับงานฉลอง 3 แชมป์ของเจ้าบุญทุ่ม..บาเซโลน่า อย่างไรอย่างนั้นเลย อิอิอิ

*ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเมื่อเหลือบดูดัชนีแกว่งตัวไปมาก่อนจะมาปิดที่ 1,508.28จุด บวกไป 0.91 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.86 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ฟ้องให้รู้ว่านักลงทุนบางกลุ่มยังรู้สึกเข็ดขยาด จึงเลือกใช้วิธีชะลอลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงในพอร์ตของตัวเอง และสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้คือ บรรยากาศการลงทุนจะหงอยเหงาลงเรื่อยๆ นะตัวเอง

*แม้ตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) จะออกอาการเมาหมัด แต่ตลาด mai กลับเปล่งประกายอย่างไม่น่าเชื่อ จนกลายเป็นทางเลือกสำหรับแมงเม่า แถมไม่ต้องกังวลกับแรงเทขายของฝรั่งหัวทอง กับกองทุนขี้ตืด “โมนิก้า” ถึงสนับสนุนให้แฟนคลับหันมาลงทุนในตลาดนี้บางส่วน เพราะมีหุ้นเติบโตสูงให้ลงทุนหลายตัว และยังมีหุ้นที่เริ่มกลับมาทำกำไรให้เห็นหลายตัวเจ้าค่ะ

*ประเดิมตัวแรกที่ TVTมีวอลุ่มซื้ออัดแน่นเข้ามาตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาหุ้นกระชากขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะปิดที่ระดับ 2.16บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 17.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 380 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องเล่นตามน้ำในทันที ไม่มีอะไรต้องคิดมากมาย แถมพรายกระซิบยืนยันผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 เลิศสะแมนแตนสุดๆ ต้องเดินหน้าลุยอย่างเดียวแล้วล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นสุดรัก CHOหากวิเคราะห์ตามผลงานที่ทำไว้ และความสามารถในการต่อยอดธุรกิจ “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่โดนใจอย่างแรง จึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.06บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 170 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นระดับที่แมงเม่าลงทุนได้สบายๆ ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความผันผวนเจ้าค่ะ

*ส่วนที่แรงเกินไป จนมีอาการโอเว่อร์ฮีต เดี๊ยนกลับมองไปที่ LIT ตลอดทั้งวันมีการไล่ราคาให้เห็นเป็นรอบๆ จนสุดท้ายหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.95 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 17.80% ด้วยมูลค่า 315 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดที่นักเล่นต้องพิจารณาผลกระทบที่จะตามหลังมากันเอาเอง เพราะก่อนหน้านี้หุ้นเคยวิ่งขึ้นไป 6.20 บาท ต่อจากนั้นย่อตัวลงมายืนที่ 5.05 บาท จำได้ไหมเอ่ย?

*สำหรับในรายของ PDGราคาหุ้นขยับขึ้นหวือหวาอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าหมดรอบ แต่เผอิญมีคนจุดประเด็นเรื่อง growth stocks“โมนิก้า” เลยเกิดอาการเคลิบเคลิ้มตามไปกับเขาด้วย ยิ่งมองค่า P/E ที่ระดับ 19 เท่า ตามด้วยค่า P/BV ที่ระดับ 2.50 เท่า และปิดท้ายที่กำไรในไตรมาส 1 ปี 58 คิดเป็น 50%ของกำไรปี 57 มันทำให้ราคาปิดที่ 5.30บาท บวกไป 0.48บาท หรือขึ้นไป 10%  ด้วยมูลค่า 122 ล้านบาท ยังเป็นระดับที่ลงทุนได้อีกวันเจ้าค่ะ

*ส่วนตัวที่อันตรายในความคิดของ “โมนิก้า” ยังเป็น AJPหุ้นตัวเดิมๆ หน้าเดิมๆ มุขเดิมๆ ซึ่งหลายคนเคยเห็นฤทธิ์เดชของหุ้นตัวนี้มาเป็นอย่างดี เดี๊ยนในฐานะนักสังเกตความเคลื่อนไหวของหุ้น “ลับ ลวง พราง” ย่อมอยากจะอยู่ห่างๆ หุ้นที่มีกลิ่นตุๆ ล่าสุดหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 12.10บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4%  ทั้งที่เดือนเมษายนยังอยู่แถวๆ 7-8 บาท โอเว่อร์รีแอ๊คหรือไม่? ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ PAFทำคนเล่นเจ๊งมานักต่อนัก พอในระหว่างวันหุ้นเริ่มกระชากขึ้นให้เห็น อาการขี้หดตดหายก็หายเป็นปลิดทิ้ง พร้อมกับกระโจนเข้าใส่หุ้นอุตลุด จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.08บาท หรือขึ้นไป 0.56บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 320 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองว่านี่อาจเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือนครึ่ง ที่หุ้นขยับขึ้นจาก 3 บาท ขึ้นไปแตะ 4.50 บาท แล้วไหลรูดเป็นน้ำก็ได้ จริงไหม?

*ส่วนในรายของ JMARTเป็นที่รู้กันว่ากำลังอยู่ในช่วงรุกธุรกิจเงินๆ ทองๆ จึงจำเป็นต้องมีแขนขาไว้บุกธุรกิจแบบ 360 องศา และเผอิญส่วนต่อขยายก็เข้าได้พอดีกับ SINGERวานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 10.50บาท บวกไป 0.70บาท หรือขึ้นไป 7% ขณะที่รายหลังปิดที่ 14.30 บาท ลบไป 0.30 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากราคาเคาะซื้อจากผู้ถือหุ้นใหญ่วางไว้ที่ 14 บาท หลังจากนี้ต้องดูกันต่อไปว่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนะค่ะ

*ป.ล.วันนี้แมงเม่าเริ่มเรียนรู้ด้วยตนเองแล้วว่าสถานการณ์ในแต่ละวันควรทำตัวอย่างไร เดี๊ยนก็เลยรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง..อิอิอิ

Back to top button