SUPER จ่อยื่นไฟลิ่งกองทุน IFF ระดมทุนรับแผนขยายธุรกิจโตแกร่ง

SUPER จ่อยื่นไฟลิ่งกองทุน IFF ระดมทุนรับแผนขยายธุรกิจโตแกร่ง ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 มีกำไร 342 ลบ. ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไร 343 ลบ. ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไร 754 ลบ. ลดลง 11% จากปีก่อนมีกำไร 849 ลบ.


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์) นั้น ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติและประกาศการแก้ไขกฎเกณฑ์การจัดตั้งกองทุนฯ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2561 โดยมีผลในวันที่ 1 กันยายน 2561 นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ภายในเร็วๆ นี้ โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

โดยเบื้องต้นบริษัทฯ มีแผนให้โซลาร์ฟาร์มขนาด 118 เมกะวัตต์ ซึ่ง SUPER ถือหุ้นราว 10-15% ขายสินทรัพย์เข้ากองทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปชำระหนี้ และรองรับการขยายงานในอนาคต

“การจัดตั้งกองทุน IFF ที่ผ่านมาเรา ทำงานกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งที่ปรึกษาทางการเงิน, ที่ปรึกษากฏหมาย และบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวม โดยปัจจุบันสำนักงานก.ล.ต. ได้อนุมัติและประกาศการแก้ไขเกณฑ์เรื่องการจัดตั้งกองทุนแล้ว ดังนั้นตามกระบวนการน่าจะยื่นไฟลิ่งในเร็วๆนี้ อย่างแน่นอน” จอมทรัพย์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,439,720 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 342.044 ล้านบาท โดยไตรมาสดังกล่าวบริษัทฯ มีรายได้หลักมาจากโซลาร์ฟาร์ม ขณะเดียวกันยังเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนจากโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จ.สระแก้ว เข้ามาช่วยสนับสนุนอีกด้วย อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3/2561 จะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าขยะเข้าเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ และยังถือว่าจากนี้ SUPER จะมีรายได้พลังงานทดแทนด้านขยะนอกเหนือจากโซลาร์เซลล์อย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม SUPER ยังคงดำเนินธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้เพื่อสร้างรากฐานและรายได้ที่มั่นคง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกันเร็วๆ นี้จะเห็นโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ (SPP Hybrid Firm) อีกจำนวน 30 เมกะวัตต์ ซึ่งตามแผนงานที่วางไว้จะทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 /ของปี2561 นี้ พร้อมจ่ายไฟฟ้าได้ทันทีที่ติดตั้งเสร็จ ซึ่งจะใช้เวลาในการติดตั้งประมาณ 4-5 เดือน

ส่วนการลงทุนในตลาดต่างประเทศ บริษัทยังเดินหน้าศึกษารายละเอียดในการขยายการลงทุนทั้งในรูปแบบลงทุนเองและร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% จากปีก่อน ส่วนปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังผลิตไฟฟ้าในประเทศที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วราว 802.1 เมกะวัตต์ (MW) โดย COD แล้ว 749.60 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 3 แห่ง กำลังผลิตรวมราว 30 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งจะ COD ได้ในปี 2562-2563 ,โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ ระยะที่ 2 ราว 28 เมกะวัตต์ COD ในปี 2561, การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm จำนวน 32 เมกะวัตต์ COD ในปี 2564

ขณะที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามอีก 700 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและรูปแบบการลงทุนและรูปแบบการพัฒนา โดยจะทยอย COD ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เริ่มตั้งแต่ปลายปลายปี 2562 เป็นต้นไป

อนึ่ง SUPER  รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2561 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ดังนี้

Back to top button