เผยโฉม 38 หุ้นผลงานแย่กำไร Q2/61 ทรุดฮวบเกิน 50%

เผยโฉม 38 หุ้นผลงานแย่กำไร Q2/61 ทรุดฮวบเกิน 50%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูล และทำการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 ซึ่งในครั้งนี้อาศัยข้อมูลมาจากบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ โดยนายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานค้าบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์เป็นผู้รวบรวมข้อมูล

โดยในครั้งนี้ขอนำเสนอข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่มีผลกำไรปรับตัวลงอย่างหนักเกิน 50% ซึ่งมีทั้งหมด 38 ตัว อาทิ TU, NOBLE, VNG, GLAND, BR, ASIMAR, EPCO, FN, BSBM, INET, NSI, SPI, JMART, WIIK, PM, ITD, PREB, PMTA, TASCO, TFG, HANA, CCET, LEE, WHAUP, GFPT, DDD, GL, TPP, TTA, SKN, TWPC, LPH, TPBI, BRR, SIRI, TGCI และ CBG

อย่างไรก็ตามการนำเสนอข้อมูลประกอบการลงทุนอาจได้ไม่ครบทั้งหมดดังนั้นครั้งนี้จะขอเลือกนำเสนอเพียง 5 อันแรกของตารางดังนี้

อันดับที่ 1 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 มีกำไร 9.64 ล้านบาท ลดลง 99.32% จากปีก่อนมีกำไร 1.42 พันล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้กำไตรในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลง เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และค่าใช้จ่ายทางกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีความในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการบริษัทที่ 3.29 พันล้านบาท จากปีก่อน 1.63 พันล้านบาท

ขณะที่ ค่าใช้จ่าย SG&A ไตรมาส 2/2561 อยู่ที่ 3,567 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 7.5% จากระดับ 3,318 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 นอกจากนี้ บริษัทมียอดขายลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/60 มา อยู่ที่ 34,137 ล้านบาทโดยหลักเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน

อันดับที่ 2 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 มีกำไร 8.09 ล้านบาท ลดลง 97.94% จากปีก่อนมีกำไร 392.02 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้กำไตรในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลง เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวน 655.07 ล้านบาท ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 1.80 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มี การรับรู้รายได้จากโครงการโนเบิล เพลินจิต เป็นจำนวนมาก

อันดับที่ 3  บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 มีกำไร 12.35 ล้านบาท ลดลง 95.87% จากปีก่อนมีกำไร 12.35 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้กำไตรในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลงโดยเป็นผลมาจากรายได้จากการขายในประเทศและต่างประเทศลดลงประมาณร้อยละ 14 และ 12 ตามลำดับ

อันดับที่ 4 บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 มีกำไร 22.01 ล้านบาท ลดลง 92.78% จากปีก่อนมีกำไร 305.02 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้กำไตรในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลง เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง ต้นทุนให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้นและมีผลขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน

อันดับที่ 5 บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 มีกำไร 10.69 ล้านบาท ลดลง 92.25% จากปีก่อนมีกำไร 137.92 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุที่ส่งผลให้กำไตรในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น โดยเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว (non-recurring) ได้แก่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่ต่างประเทศซึ่งไม่ประสบความสำเร็จในขั้นตอนสุดท้ายของการประมูล และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องคดีขอคืนภาษีและบริษัทมีส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 24 ล้านบาท

Back to top button