เปิด 34 รายชื่อหุ้น SET โชว์ผลงาน Q2/61“เทิร์นอะราวด์”น่าเก็บ!

เปิด 34 รายชื่อหุ้น SET โชว์ผลงาน Q2/61“เทิร์น อะราวด์”น่าเก็บ! นำทีมโดย TRUE,ESSO,SGP,STA,S, MJD,PF,PSL,SUSCO,TC,TRU,AMANAH,TYCN, TRITN,RCI,BLISS,TH,SIAM,SST, SMT,EMC,WIN,MAX,THE,TCC,AJA,PAP,TPA,Q-CON,MANRIN,KDH,DTC,VPOและTRUBB


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและทำการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 โดยครั้งนี้อาศัยข้อมูลมาจากบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ โดยนายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานค้าบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์

สำหรับครั้งนี้จะเลือกนำเสนอข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่พลิกมีกำไร(Turnaround) ซึ่งมีทั้งหมด 34 ตัว อาทิ TRUE,ESSO,SGP,STA,S, MJD,PF,PSL,SUSCO,TC,TRU,AMANAH,TYCN, TRITN,RCI,BLISS,TH,SIAM,SST, SMT,EMC,WIN,MAX,THE,TCC,AJA,PAP,TPA,Q-CON,MANRIN,KDH,DTC,VPOและTRUBB

แน่นอนหุ้นดังกล่าวนับว่าทำผลงานได้โดดเด่นและถือเป็นหุ้นที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน เนื่องจากทิศทางตลาดปีนี้นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) จะอยู่ที่ 1,800 จุด โดยมองว่าช่วงครึ่งปีหลังตลาดหุ้นไทยน่าจะ Outperform กว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค และกลุ่มประเทศ Emerging Market เพราะการเติบโตเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

โดยภาพรวมการลงทุนทั้งในและต่างประเทศช่วงที่เหลือของปีนี้ ตลาดหุ้นยังลงทุนได้แม้ความผันผวนยังสูง โดยตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วได้รับอานิสงส์จากการบริโภคภายในประเทศและการจ้างงานที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากนโยบายการคลัง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่รัฐบาลปรับลดภาษีทั้งภาษีบุคคลธรรมดาและภาษีนิติบุคคล ซึ่งการที่เศรษฐกิจขยายตัวดีก็จะส่งผลบวกต่อเนื่องถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนให้เติบโตดีกว่าคาดในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามการนำเสนอข้อมูลประกอบการลงทุนครั้งนี้อาจได้ไม่ครบทั้งหมดดังนั้นจะขอเลือกนำเสนอเพียง 5 อันแรกของตารางโดยเรียงลำดับจากพลิกมีกำไรมากสุดในกลุ่มดังนี้

อันดับ 1 คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 มิ.ย. 61 มีกำไรสุทธิ 10,037.20 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 1,245.42 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์และบริการอื่นไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นเป็น30,247.57 ล้านบาท จากปีก่อน 29,968.34 ล้านบาท และรายได้จากการขายสินค้าไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นเป็น 30,949.95 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 4,973.41 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวมไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นเป็น 61,197.52 ล้านบาท จากปีก่อน 34,941.75 ล้านบาท

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TRUE* (เป้าพื้นฐาน 9.0 บาทฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 3/61 –ไตรมาส 4/61 จาก i) คาดว่ารายได้จะโตจากจำนวนผู้ใช้บริการ TrueMove H ที่เพิ่มขึ้น และ ARPU ที่เพิ่มขึ้น ii) ค่าตัดจำหน่ายลดลงหลังจากที่บริษัทบันทึก ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 1.2 หมื่นล้านบาทไปตั้งแต่ไตรมาส 2/61 ซึ่งคาดว่าจะทำให้สามารถประหยัดต้นทุนไปได้ประมาณ 3.6 พันล้านบาท/ปี และ iii) การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในไตรมาส4/61 ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายและมาร์จิ้นของเครื่องมือถือ

 

อันดับ 2 บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 2,865.10 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 263.42ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้จากการขายไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นเป็น 50,150.85 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 40,529 .38 ล้านบาท นอกจากนี้เงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเป็น 331.42 ล้านบาท จากปีก่อน 241.47 ล้านบาท

บล.กรุงศรี ระบุว่า กลุ่มพลังงาน (PTTEP, TOP, SPRC, ESSO, PTTGC ) ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเหนือ 67 US/Barrel และค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูงล่าสุด 8.3 US/Barrel

 

อันดับ 3 บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61มีกำไรสุทธิ 765.71 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 66.07 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขาย,การขนส่ง และการให้บริการสำหรับไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นเป็น 15,982.10ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 เป็นจำนวนเงิน 13,372.33 ล้านบาท ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจำนวนเงิน 2,609.77 ล้านบาทหรือร้อยละ 19.52

โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) ที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อน และบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายลดลง

ขณะที่บริษัทประกาศปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2561 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2561 อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.25 บาทต่อหุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 20 ส.ค. 2561 วันที่จ่ายปันผล 5 ก.ย. 2561

บล.เคจีไอ ระบุว่า SGP (เป้าพื้นฐาน 13.1 บาท) ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกล่าสุดเดือน ส.ค.ที่ยังปรับขึ้นสู่ระดับ 580 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน (จากเดือน มิ.ย.ที่ 560 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน) และล่าสุดราคาก๊าซ LPG สัญญาล่วงหน้าเดือน ก.ย.ทำนิวไฮรอบปีที่ 591.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน

เบื้องต้นคาดคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/61 ทรงตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้า ก่อนเข้าสู่ High season ใน ไตรมาส 4/61  มีโอกาสในการปรับประมาณการและราคาเป้าหมายขึ้น หลังการประชุมนักวิเคราะห์ (Opportunity day 12 ก.ย.) 3) จากประมาณการปัจจุบัน PE ยังต่ำเพียง 10.2 เท่า (EPS 1.15 บาท)

 

อันดับ 4 บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 มิ.ย. 61 มีกำไรสุทธิ 591.93 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 2,080.05 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนขายและการให้บริการไตรมาส 2/61 ลดลงเป็น 17,494.17  ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 23,686.01 ล้านบาท

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุว่า STA (; ซื้อ; AWS TP 15.50 บาท) ค่า P/BV อยู่ต่ำเพียง 0.8 เท่า คาดปี 2561 พลิกกลับมาทำกำไรดีขึ้นอย่างมีนัยยะ ทำให้คาดหวังการจ่ายเงินปันผลได้สูงถึง 0.57 บาท คิดเป็น Dividend Yield  เท่ากับ 4.7%

อันดับ 4 บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ GRAND  มีกำไรสุทธิ 234.41 ล้านบาท โต 2,179.13 % จากปีก่อน 10.29 ล้านบาท เนื่องจากรายได้รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมและรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ไตรมาส 2/61 มีกำไรจากการซื้อในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมจำนวน 235.39 ล้านบาท ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นมาก

 

อันดับ 5 บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 มีกำไรสุทธิ 411.87 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 61.50 ล้านบาท

เนื่องจากรายได้จากการให้เช่าและการให้บริการไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นเป็น 608.03 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 540.70 ล้านบาท และต้นทุนขายบ้านและอาคารชุดไตรมาส 2/61 ลดลงมาที่ 219.89 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน 308.58 ล้านบาท

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

 

 

Back to top button