แรงซื้อเริ่มแผ่ว

*ดัชนีวานนี้ปรับตัวผันผวนทั้งแดนบวกและลบอยู่ในกรอบแคบ ๆ ก่อนจะมีการไล่ซื้อขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายขึ้นปิดที่ระดับ 1,722.26 จุด บวกไป 4.11 จุด หรือขึ้นไป 0.24% ด้วยมูลค่า 3.81 หมื่นล้านบาท ช็อตการเคลื่อนไหวสวิงสวายตลอดทั้งวัน ประกอบกับมูลค่าซื้อขายไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท เป็นข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” มองว่าการขึ้นรอบนี้ยังไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดัชนีวานนี้ปรับตัวผันผวนทั้งแดนบวกและลบอยู่ในกรอบแคบ ๆ ก่อนจะมีการไล่ซื้อขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายขึ้นปิดที่ระดับ 1,722.26 จุด บวกไป 4.11 จุด หรือขึ้นไป 0.24% ด้วยมูลค่า 3.81 หมื่นล้านบาท ช็อตการเคลื่อนไหวสวิงสวายตลอดทั้งวัน ประกอบกับมูลค่าซื้อขายไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท เป็นข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” มองว่าการขึ้นรอบนี้ยังไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทย ณ เวลานี้ถึงเป็นอะไรที่ กลืนไม่เข้า คายไม่ออกล้วนมาจากปัจจัยใหม่ ๆ ไม่มีเข้ามาเลย ส่วนแรงซื้อกองทุนเริ่มแผ่วปลายอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดเก็บหุ้นไทยไปแบบกระหยิบกระหย่อมเพียง 921.88 ล้านบาท ฝั่งที่ยังตั้งหน้าตั้งตาขายหุ้นทิ้งเป็นฝรั่งตาน้ำข้าวยิ่งทำให้ดัชนีผันผวนมากขึ้น การขยับตัวขึ้นยืนเหนือแนวต้าน 1,720 จุด เป็นจุดที่ยังไม่น่าดีใจนัก

*การเคลื่อนไหวของหุ้นบลูชิพแต่ละกลุ่มที่เป็นตัวหลักในการบิลต์อารมณ์นักลงทุนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแบงก์ กลุ่มพลังงานยังไม่ขยับไปไหนไกล ทำให้การขึ้นรอบนี้ถือเป็นภาพที่ฟ้องด้วยตัวมันเองไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากมายอีกแล้ว “โมนิก้า” ถึงพยายามกระตุ้นให้แฟนคลับเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเข้าไปเล่น แล้วไม่ขายหุ้นในช่วงถีบตัวก็อาจติดดอยแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะฉะนั้นหากคิดจะเล่นหุ้นในช่วงนี้พยายามอย่าฝืนธรรมชาติจะดีกว่านะเจ้าค่ะ

*โดยหุ้นตัวแรกที่ยังลุ้นไม่ขึ้นเป็น PTT ถึงแม้แฟนคลับลุ้นกันจนหืดขึ้นคอมาหลายวันก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนกรอบเพดานการวิ่งได้ วานนี้ยังทรงตัวอยู่ที่ 52.50 บาท ด้วยมูลค่า 2.99 พันล้านบาท ในเมื่อรูปแบบเทรนด์ราคาหุ้นยังไม่เปลี่ยนแบบนี้ หลาย ๆ คนถึงเข้าใจตรงกันว่ายังไม่มีแววที่จะขยับขึ้นไปสร้างกรอบใหม่ได้ หุ้นถึงได้ย่ำอยู่กับที่เหมือนพายเรือวนในอ่างยังไงล่ะจ๊ะ

*ในรายของ BANPU เป็นหุ้นอีกตัวที่ทำให้เห็นภาพของการพายเรือในอ่างได้อย่างชัดเจน เพราะรูปแบบการเคลื่อนไหวในระยะเวลา 5 เดือนถอดแบบกันมาไม่มีผิด ถึงแม้ว่าราคาหุ้นตอนนี้จะมีแวลูโดดเด่น ทั้งจากราคาถ่านหินที่ยังเป็นขาขึ้นรับไฮซีซั่นพ่วงประเด็นบวกอย่างผลงานไตรมาส 3 ก็ยังไม่มีแววว่าราคาหุ้นจะฟื้น ล่าสุดลงมากองอยู่ที่ 20.30 บาท ปรับตัวลดลง  0.10 บาท หรือลงไป 0.49% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 579.39 ล้านบาท งานนี้หากลงมาแตะ 19.50 บาท ก็ตัวใครตัวมันนะเจ้าค่ะ

*กลับกันในรายของ RJH ถ้าดูไซเคิลการเคลื่อนตัวของหุ้นวานนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า หุ้นมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังกระชากขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย จนสุดท้ายขึ้นมาปิดที่ 24.40 บาท บวกไป  1.60 บาท หรือขึ้นไป 7.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 204.22 ล้านบาท เป็นจังหวะที่ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ เพราะการเคลื่อนตัวลักษณะนี้มีลุ้นดีดต่อขึ้นไปบริเวณ 25 บาท ได้อีกครั้งนะซี

*ส่วน SVI ขยันไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่อง วานนี้ได้เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.75 บาท ปรับตัวขึ้น 0.05 บาท หรือ ขึ้นไป 0.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 159.08 ล้านบาท ถือเป็นเป็นแพตเทิร์นที่ปูทางมาได้ดีสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานหรือเทคนิค ทำให้หุ้นมีโอกาสที่จะวิ่งต่อไปอีกยาว เพราะมอง ๆ ดูแล้วยังมีอะไรน่าสนใจรออยู่นักเล่นที่เน้นหุ้นดีมีสตอรี่ไม่ควรรอช้าใส่เกียร์เดินหน้าไปเลยจ้ะ

*หันมามอง SCI วานนี้ได้เห็นการพยายามขึ้นมาทดสอบ 3.38 บาทอีกครั้ง ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.28 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21.93 ล้านบาท การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ มิตรรักแฟนเพลง ที่อยากเห็นหุ้นวิ่งกลับขึ้นไปแถว ๆ 4 บาทคงต้องลุ้นเหนื่อยสักหน่อย เพราะว่าแนวต้านสำคัญยังเหนียวสุด ๆ ยังไงล่ะเจ้าค่ะ

*แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริง ๆ สำหรับในรายของ PACE ที่พอประกาศเพิ่มทุนขาย PP ให้กองทุนใหญ่ในต่างประเทศราคาก็วิ่งเป็นม้าคึกมาปิดที่ 0.72 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือบวกไป 7.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 252.15 ล้านบาท พ่วงข่าวดีขายแฟรนไชส์ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” ให้กลุ่ม “ซีพี” เปิดคาเฟ่ร้านกาแฟเป็นเวลา 5 ปี ในแดนมังกร แบบนี้ถือว่าเป็นขาขึ้นสุด ๆ จริงไหมเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายที่หุ้น IRPC เหมือนยกภูเขาก้อนใหญ่ออกจากอกหลังคดีเรื้อรังปิดข่าวเป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นการปลดล็อกเรื่องยุ่งเหยิงที่พันธนาการมานานจน (เกือบ) จะลืมไปเสียแล้ว วานนี้ถึงได้เห็นหุ้นดีดกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.85 บาท ปรับตัวขึ้น 0.15 บาท หรือ ขึ้นไป 2.24% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท เมื่อสิ่งที่ค้างคาได้หายไปแล้วต่อจากนี้เป็นอนาคตใหม่ที่ต้องจุดไฟให้ลุกโชนเท่านั้นเองเจ้าค่ะ

Back to top button