สังคมข่าวหุ้นนิวส์เวฟ

หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจรายวัน กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันพฤหัสบดี 11 มิถุนายน 2558 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,504.04 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 11.72 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.1 หมื่นล้านบาท


หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจรายวัน กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ ฉบับประจำวันพฤหัสบดี 11 มิถุนายน  2558 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายอยู่ที่ 1,504.04 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 11.72 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.1 หมื่นล้านบาท

* เมื่อวานปิดบวกวันนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อว่า จะยืนอยู่ในแดนบวกได้ต่อเนื่องหรือไม่ ดังนั้น นักลงทุนก็ต้องติดตามสถานการณ์กันให้ดี เพราะภาวะตลาดหุ้นเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาแบบนี้ จะทำตัวนิ่งเฉยไม่เตรียมพร้อมตัดสินใจไม่ได้

* โดยล่าสุดฝั่งเข้าซื้อสุทธิกลายเป็นทางสถาบันที่เข้าเก็บ 1,571 ล้านบาท ตามด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ที่แจมอีก 150 ล้านบาท ส่วนขาเทขายสุทธิต่างชาติจัดหนัก 1,193 ล้านบาท ตามด้วยรายย่อย 529 ล้านบาท

* หุ้น AOT เป็นสายพื้นฐานที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับนี่ยืนเหนือระดับ 300 บาทมาได้แล้วติดต่อกันถึง 7 วันทำการ แรงหนุนหลักมาจากเป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสทำผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยของเศรษฐกิจภายในประเทศนั่นเอง

* จนล่าสุดขยับขึ้นมาสู่ระดับ 315 บาท ยังต่ำกว่าเป้าหมายใหม่แถวระดับ 350 บาทอยู่มากโข ใครได้เข้าเก็บตั้งแต่ต้นทุนต่ำกว่าปัจจุบันแนะนำ “LET PROFIT RUN” สถานเดียว ส่วนคนที่แอบให้ความสนใจ ก็รอเข้าเก็บช่วงจังหวะอ่อนตัวลงมา

* ต่อกันด้วยอีก 4 หุ้นเด่นจากกลุ่มอาหาร-โรงแรม ซึ่งได้ข่าวดีทางนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนกลุ่มสู่ระดับ “มากกว่าตลาด” งานนี้เป็นผลมาจากโอกาสเติบโตงบไตรมาส 2 ที่ยังดีต่อเนื่อง * โดยกลุ่มอาหารได้แรงหนุนหลักมาจากภาวะค่าเงินบาทอ่อนค่าและยังคงวิ่งเหนือระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐไว้ได้ ส่วนกลุ่มท่องเที่ยว อันนี้ รับอานิสงส์ชาวต่างชาติที่ยังไหลเข้ามาสู่ประเทศไทยแบบไม่หยุด ซึ่งทั้ง 4 หุ้นที่โบรกฯเขาแนะนำ ได้แก่ CPF-TUF-ERW-MINT รักชอบตัวไหน จัดได้ทั้งหมดจ้า

* อีกหนึ่งหุ้นที่น่าจับตา ขอเลือก SAMTEL ที่เรียกได้ว่า ผ่านพ้นจุดต่ำสุดกันไปแล้ว แถมล่าสุดทางผู้บริหารอย่าง “วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” ออกปากเล่าข่าวดีกันว่า ภายในช่วงเร็วๆ นี้ จะมีโอกาสได้เซ็นสัญญางานใหม่มูลค่ารวมถึง 6,400 ล้านบาท เลยแหละ

* ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 เริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ และจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น เป้าหมายที่กำหนดทำรายได้ไว้ทั้งปี 10,000 ล้านบาท คงไม่น่ามีปัญหา ส่วนราคาในกระดานระดับ 21-22 บาท ยังถือเป็นจุดเข้าสะสมได้ เพราะยังห่างจากราคาเป้าหมาย 28 บาท มากพอตัว

* หุ้น WHA ดูแล้วยังไงก็น่าสนใจ ถึงแม้ในงวดไตรมาสแรกที่ผ่านมา จะออกตัวเป๋ไปหน่อย แต่ขอให้จับตาดูตั้งแต่งวดไตรมาส 2 เป็นต้นไปนี่แหละ จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวแบบก้าวกระโดด

* ถามว่าแรงหนุนมาจากอะไร คำตอบ ก็คือ งวดไตรมาสนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่จะเริ่มรับรู้รายได้-กำไรจากทาง HEMRAJ เข้ามาแล้วนั่นเอง นี่ยังไม่รวมกรณีเรื่องการบันทึกกำไรพิเศษเข้าไปอีกนะ ที่สำคัญในช่วงสัปดาห์หน้าจะได้เห็นข่าวดีกรณีขยับเข้าสู่กลุ่ม SET50 เพราะเท่ากับเป็นการอัพเกรดหุ้น WHA ขนานใหญ่เพื่อดึงดูดให้ต่างชาติเข้าลงทุนมากขึ้นในอนาคต

* หุ้น TASCO เมื่อวานปิดลบอยู่ที่ 19.40 บาท เท่ากับดิ่งลงมาติดต่อกันถึง 2 วันติด งวดนี้ไม่ได้มีข่าวร้ายอะไร เป็นการขายทำกำไรตามปกติเท่านั้น แต่รวมแล้ว 2 วัน ปิดลบไปแล้วกว่า 7% ดังนั้น โอกาสที่ราคาหุ้นจะดีดเด้งกลับขึ้นมาได้ในวันนี้มีอยู่สูง สายเทรดดิ้งจัดไปไม่ต้องห่วง

* ปิดท้ายกันด้วยหุ้นร้อนรายล่าสุด RPC โอ้โหรอบนี้เล่นดันราคากันด้วยข่าวลือ กลุ่มสยามราช หรือ SR เตรียมเข้าซื้อหุ้น 35% ในราคาระดับ 3 บาท โอ๊ย บ้าไปแล้ว

* งานนี้วงการเงิน ให้ความเห็นกันมาว่า ไม่มีความสมเหตุผลเลยสักนิด แค่ราคาเสนอซื้อ 3 บาท นี่ก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะสูงกว่าราคาหุ้น RPC ในกระดานเกิน 100% เสียอีก * ที่สำคัญ RPC ในตอนนี้แทบไม่มีอะไรให้เป็นพรีเมี่ยมต่อราคาหุ้นได้เลย แถมสินทรัพย์สำคัญอย่างโรงกลั่นก็เพิ่งประกาศขายกันไปแล้วเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม สรุปสั้นๆ ได้ใจความเลยว่า ลากราคาเพื่อเอาไปเชือดเท่านั้นเอง เอ้า ได้ยินแล้วก็ขอให้รับทราบกันไว้ด้วย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน *

Back to top button