หนังม้วนเก่าโมนิก้าและทีมงาน

วันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องออกมาพูดถึงกระบวนยุทธ์ในการลงทุนให้เสียเวลาทำมาหากินอีกต่อไป เพราะข่าวสารที่เป็นตัวเร้าให้แมงเม่า ปอบผีฟ้า ฝรั่งตาน้ำข้าว หรือแม้กระทั่งกองทุนขี้ตืด ซื้อๆ ขายๆ ล้วนมาจากเรื่องเดิมที่เคยเล่าให้ฟังหลายครั้งต่อหลายครั้ง ไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวถึงซ้ำสองซ้ำสาม แถมทุกครั้งที่มีการเม้าท์ถึงทีไร เดี๊ยนเกิดอาการคลื่นเหียนอยากจะอาเจียนทุกทีเจ้าค่ะ


เจาะกระดานหุ้น: โมนิก้าและทีมงาน

 

*วันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องออกมาพูดถึงกระบวนยุทธ์ในการลงทุนให้เสียเวลาทำมาหากินอีกต่อไป เพราะข่าวสารที่เป็นตัวเร้าให้แมงเม่า ปอบผีฟ้า ฝรั่งตาน้ำข้าว หรือแม้กระทั่งกองทุนขี้ตืด ซื้อๆ ขายๆ ล้วนมาจากเรื่องเดิมที่เคยเล่าให้ฟังหลายครั้งต่อหลายครั้ง ไม่มีความจำเป็นต้องกล่าวถึงซ้ำสองซ้ำสาม แถมทุกครั้งที่มีการเม้าท์ถึงทีไร เดี๊ยนเกิดอาการคลื่นเหียนอยากจะอาเจียนทุกทีเจ้าค่ะ

*นาทีถึงไม่ต้องสนใจดัชนีจะวิ่งขึ้นไปอยู่ตรงไหน หรือดัชนีจะหัวหกก้นขวิดลงไปอยู่ที่ใด เพราะท้ายที่สุดดัชนีจะวิ่งกลับขึ้นมาสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงด้วยตัวมันเอง และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,504.04จุด บวกไป 11.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.19 หมื่นล้านบาท มันเกี่ยวข้องกับการที่ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยไหม? และสัมพันธ์กับค่าเงินบาทแข็งค่าหรือเปล่า? อันนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดีแก่ใจนะจ๊ะ

*ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่ “โมนิก้า” กล่าวถึงในข้างต้น ทำให้การลงทุนในวันถัดไปยังอยู่ในลู่ทางที่ดี หุ้นหลายตัวยังเป็นทางเลือกในการลงทุนเที่ยวนี้ และทุกครั้งที่ตลาดหุ้นกลับมาคึกคักทีไร หุ้นกลุ่มบลูชิพมักเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่บรรดากองทุนวิ่งเข้าใส่ ส่วนหุ้นขนาดกลางจะกลายเป็นตัวรองในทันที ขณะที่หุ้นขนาดเล็กจะสลับหมุนเวียนขึ้นมาแสดงอภินิหารพะยะค่ะ

*เหมือนกับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ยกโขยงขึ้นมากันเป็นแถบ เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงการเด้งรับข่าว กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย สาระสำคัญที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อยังอยู่ในภาวะถดถอย แถมตัวเลขกำไรที่เห็นสวยหรูก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงการกินบุญเก่าที่สั่งสมไว้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับแยกแยะการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ให้ชัดเจน และไม่ควรทำตัวเป็นชาวไล่ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังหาทางสร้างฐานนะคะ

*ยกเว้นในรายของ PTT และ PTTEP “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่นักเล่นต้องกลับไปคิดอีกทีว่า ราคาหุ้น ณ ตอนนี้ต่ำเกินไปหรือเปล่า? หากคิดว่าระดับนี้เป็นจุดที่สามารถลงทุนได้ ก็ไม่ต้องคิดอะไรให้ปวดกระบาล เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ทุกอย่างต้องกลับเข้าสู่จุดสมดุล วานนี้ถึงเห็นหุ้นแม่วิ่งขึ้นมาปิดที่ 344 บาท บวกไป 7 บาท ส่วนตัวลูกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 111  บาท บวกไป 4.50 บาท ไงล่ะค่ะ

*ส่วนตัวที่ต้องเฝ้าระวัง และต้องพิจารณาให้ดี “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้น PAF เป็นลำดับแรก ข่าวเม้าท์ ข่าวลือ ผสมปนเปกันไปหมด ก่อนหน้านี้มีเล่นข่าวโดนเทกโอเวอร์ ต่อมาเป็นเล่นข่าวสวมธุรกิจ ถัดจากนั้นประโคมข่าวเทิร์นอะราวด์ เดี๊ยนเลยไม่รู้ว่า หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.18 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 510 ล้านบาทมันเกิดจากอะไรกันแน่เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ RPC ถ้าย้อนดูปูมหลังของหุ้นในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา การเคลื่อนตัวของหุ้นยังเป็นลักษณะ “ขึ้นแรง ลงเร็ว” แก่นแท้ของหุ้นไม่มีอะไรให้จดจำ ทุกอย่างยังเป็นวิมานในอากาศ แถมเค้าโครงเรื่องต่างๆ มาทรงเดียวกับรายข้างตน “โมนิก้า” ถึงไม่สามารถล่วงรู้ว่าการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.27+ 0.14+ 12 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 460 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องตามกระแสทันทีหรือเปล่าพะยะค่ะ

*ด้วยเหตุนี้อย่าไปถามถึงสาเหตุที่ทำให้ SAMCO กระชากขึ้นมาปิดที่ 5.05 บาท บวกไป 0.23 บาท หรือขึ้นไป 4.77% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 159 ล้านบาท เพราะก่อนหน้านี้เคยทำท่ากระชากขึ้นแรงแบบนี้ 2-3 ครั้ง สุดท้ายโดนถล่มอย่างหนักหน่วง จนราคาหุ้นลงมากองอยู่แถว 4.50 บาท ล้วนเป็นข้อมูลที่นักเล่นต้องพิจารณาให้ดีก่อนเข้าลงทุน เพราะการขึ้นเที่ยวนี้อาจเป็น “โอกาส” หรือ “ความเสี่ยง” ก็ได้นะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ IFEC ไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ เป็นเวลาร่วมเดือน คิดดูแล้วกัน วันที่ 12 พฤษภาคม 58 หุ้นยืนที่ระดับ 9.30 บาท ส่วนวันที่ 10 มิถุนายน 58 หุ้นขึ้นมาปิดที่ 13 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไปอีก 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 350 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่นักเล่นต้องคิดให้ดีก่อนเข้าลงทุน เพราะก่อนหน้านี้หุ้นเคยขึ้นไปแตะ 14 บาท แล้วรูดลงไปถึงระดับ 8.20 บาท แมงลือเขาเม้าท์ว่า มันเกิดจากกลุ่มผู้ถือใหญ่หักหลังกันเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ UPA เริ่มมีวอลุ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ และบางช่วงพยายามวิ่งทะลุแนวต้าน 3 บาท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.82บาท บวกไป 0.06 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดที่น่าติดตามดูเป็นอย่างยิ่ง ส่วนจะเป็นเหมือนกับที่เดี๊ยนคิดไว้หรือไม่ อันนี้ต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆ นะจ๊ะ

*ผิดกับในรายของ KCM พุ่งกระฉูดขึ้นมาปิดที่ 1.56บาท บวกไป 0.10บาท หรือขึ้นไป 6.85% ด้วยมูลค่า 70 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความเชื่อมโยงกับกระแสข่าวคว้าโครงการใหญ่ที่แมงลือเม้าท์มาระยะหนึ่ง และดูเหมือนข่าวที่ต้องป้องปากเม้าท์น่าจะเป็นจริงเสียด้วย วานนี้ถึงเห็นมีแต่คนรบเร้าให้เดี๊ยนไปสืบหาความจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งใน 1-2 วันนี้คงได้รู้ความจริงเจ้าค่ะ

Back to top button