TOP สู่โรงกลั่นระดับโลก.!

โปรเจกต์ใหม่เอี่ยมของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ที่ชื่อว่า CFP (Clean Fuel Project) หรือโรงกลั่น สะอาด กำลังจะพลิกโฉมหน้า “โรงกลั่นไทยออยล์” จากโรงกลั่นระดับชาติไปสู่โรงกลั่นระดับโลก ด้วยปริมาณการผลิตและคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำมันต่าง ๆ


สำนักข่าวรัชดา

โปรเจกต์ใหม่เอี่ยมของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ที่ชื่อว่า CFP (Clean Fuel Project) หรือโรงกลั่น สะอาด กำลังจะพลิกโฉมหน้า “โรงกลั่นไทยออยล์” จากโรงกลั่นระดับชาติไปสู่โรงกลั่นระดับโลก ด้วยปริมาณการผลิตและคุณภาพผลิตภัณฑ์น้ำมันต่าง ๆ

ในแวดวงพลังงาน คำว่า CFP หรือโรงกลั่นสะอาด เป็นเรื่องที่รับรู้และเข้าใจกันเป็นอย่างดี..แต่แวดวงนักลงทุนและตลาดหุ้น ถือเป็นเรื่องใหม่และใหญ่..ต้องคิดหนักเป็นพิเศษ ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 140,000-160,000 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนมากสุดอีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงกลั่นไทยออยล์ เมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ถือว่าครบรอบ 57 ปี อย่างพอดิบพอดีทีเดียว

โครงการ CFP (Clean Fuel Project) คือการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อก้าวสู่ผู้นำโรงกลั่นทั่วโลก ด้วยการติดตั้งโรงกลั่นหน่วยที่ 4 และหน่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกลั่นนั่นเอง..!!

โฉมหน้าใหม่ “โรงกลั่นไทยออยล์” ที่จะได้เห็นนับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไปคือ..

  • โครงการ CFP ทำให้กำลังการผลิตโดยรวมเพิ่มเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน จากการติดตั้งโรงกลั่นหน่วยที่ 4 (กำลังผลิต 220,000 บาร์เรลต่อวัน) เพื่อทดแทนโรงกลั่นหน่วยที่ 1-2 (กำลังการผลิต 95,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่มีประสิทธิภาพลดลงจากอายุใช้งานกว่า 40-50 ปี
  • หน่วยการกลั่นที่ 4 จะมีความสามารถพิเศษในการนำน้ำมันดิบชนิดหนักที่มีราคาถูกกว่าน้ำมันชนิดเบาที่ใช้ในปัจจุบันเข้ามากลั่น หลังการติดตั้งเสร็จส่งผลให้สัดส่วนการใช้น้ำมันชนิดเบาลดลงมาที่ 50%  และแทนที่ด้วยน้ำมันชนิดหนักอีก 50%
  • การเพิ่มเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยหน่วยเพิ่มคุณภาพน้ำมัน (RHCU) ที่สามารถแปลงน้ำมันเตาทั้งหมดไปเป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานที่มีมูลค่าสูงขึ้น นั่นรวมถึงแนฟทาเบาและหนักที่นำไปสร้างมูลค่าเพิ่มในกลุ่มปิโตรเคมีอีกทางหนึ่งด้วย
  • ขานรับมาตรการ IMO หรือมาตรการองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่มีมติให้จำกัดกำมะถันในน้ำมันเตาของเรือขนส่ง ให้ไม่เกิน 0.5% (จากปัจจุบัน 3.5%) มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2563 ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นและส่งผลบวกต่อค่าการกลั่นของโรงกลั่นไทยออยล์..

การอัพเกรดสู่โรงกลั่นระดับโลก..ต้องเดิมพันด้วยเงินลงทุนสูง จึงมีภาระต้นทุนทางการเงินตามด้วย..แต่มากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่ว่า TOP ใช้เงินลงทุนโครงการนี้อย่างไรบ้าง.!? แต่มีผลเชิงลบเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น

เบื้องต้น TOP มีการตระเตรียมเงินลงทุนไว้ ทั้งจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เงินกู้จากสถาบันการเงินและเงินทุนจากการออกตราสารหนี้ โดยใช้ระยะเวลาการลงทุนประมาณ 4 ปี

ในแง่นักเล่นหุ้น TOP แบบเก็งกำไร เชื่อว่า “โครงการโรงกลั่นสะอาด” อาจทำให้รูสึกอึดอัด..กับการขึ้นลงของหุ้น TOP ที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง..!! แต่หากเป็นนักลงทุนระยะยาว มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องมีไว้ในพอร์ตลงทุน ด้วยความเป็นไปได้ที่ว่า..

“กำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัว..ค่าการลั่นสูงขึ้น..มูลค่าผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น..กำไรย่อมเพิ่มขึ้น” อย่างมิต้องสงสัยเลย..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button