BEAUTY บวกเกือบ 4% โบรกฯแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 15.50 บ. คาดยอดขายไตรมาส 3/61 ทำสถิติสูงสุดใหม่

BEAUTY บวกเกือบ 4% โบรกฯแนะ "ซื้อ" ชูเป้า 15.50 บ. คาดยอดขายไตรมาส 3/61 ทำสถิติสูงสุดใหม่ ณ เวลา 15.48 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 10.90 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.81% สูงสุดที่ระดับ 11 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.18 พันล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ล่าสุด ณ เวลา 15.48 น. อยู่ที่ระดับ 10.90 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.81% สูงสุดที่ระดับ 11 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.18 พันล้านบาท

ด้าน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ก.ย.) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEAUTY ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท/หุ้น โดยราคาหุ้นของ BEAUTY ปรับเพิ่มขึ้นถึง 54% ตั้งแต่รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/61 เนื่องจากผลประกอบการแม้เป็นไปตามที่คาด แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกลัว คาดว่าราคาหุ้นยังสามารถปรับขึ้นได้อีกและน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากการฟืนตัวมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดไว้ และด้วย PER เพียง 22.4 เท่าปี 2561 ซึ่งถูกที่สุดในกลุ่มฯ จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2561 ที่ 15.50 บาท

โดย ยอดขายในเกือบทุกช่องทางการจำหน่ายสินค้าเริ่มกลับมาขยายตัวขึ้นจากปีก่อน ตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/61 เนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของไทยเริ่มกลับมาเป็นปกติหลังจากลดลงอย่างมากในช่วงเดือน เม.ย. และ เดือน พ.ค. จากผลกระทบของการปราบปรามเครื่องสำอางค์ผิดกฎหมาย ยอดขายให้ผู้ค้าส่งในจีนก็กลับสู่สภาพปกติเช่นกันแม้ว่าระยะเวลาการจัดส่งยังคงอยู่ที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ก็ตาม (เพิ่มขึ้นจาก 1-2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากขั้นตอนการตรวจสอบการนำเข้าที่ประเทศจีนเข้มงวดมากขึ้น) ยอดขายผ่านผู้ค้าปลีกสมัยใหม่อย่าง KingPower, 7-Eleven และ Boots ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม มีเพียง Beauty Cottage (BC) และ Beauty Market (BM) ที่ยอดขายน่าจะยังคงลดลงจากปีก่อน โดยยอดขายของ BC (8% ของยอดขายรวม) น่าจะหดตัวจากปีก่อน ในไตรมาส 3/61 เนื่องจากยอดขาย Lipstick No.9 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงไตรมาส 2-3/60 ได้ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดขายของ BC จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 3/61 เนื่องจากการเปิดตัว Luxury Collection ในเดือนก.ค. ปี 2561 สำหรับยอดขาย BM (1.8% ของยอดขายรวม) นั้น น่าจะยังคงลดลงต่อเนื่อง เนื่องจาก BEAUTY อยู่ระหว่างการปรับโมเดลธุรกิจของ BM และปิดร้านที่ไม่ทำกำไร

 

นอกจากการฟืนตัวของยอดขายที่แข็งแกร่งในช่องทางการจำหน่ายปัจจุบันแล้ว ยอดขายผ่านCross-Border E-Commerce (CBEC) ไปยังประทศจีนน่าจะเป็นอีกปัจจัยที่หนุนรายได้ในไตรมาส 3/61 โดย BEAUTY เซ็นต์สัญญากับ 5 เว็บไซต์ของจีนในไตรมาส 2/61 และจะเซ็นต์สัญญาอีกเว็บไซต์ในเร็วๆนี้

อย่างไรก็ตามยอดขายผ่านช่องทางนี้ยังค่อนข้างน้อยในไตรมาส 2/61 เนื่องจาก BEAUTY เพิ่งเปิดตัวร้านค้าอย่างเป็นทางการ (Official Store) บนเว็บไซต์จีนในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่เปิดตัว Official Store แล้ว ยอดขายพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และถ้าบริษัทสามารถรักษาโมเมนตัมได้ เป้าหมายรายได้ขั้นต่ำต่อปีที่ 100-150 ล้านบาทสำหรับเว็บไซต์รายใหญ่และ 60-70 ล้านบาทสำหรับรายเล็ก น่าจะทำได้ไม่ยากนัก

ทั้งนี้ คาดว่ายอดขายของ BEAUTY จะทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/61 และเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/61 ตามปัจจัยทางฤดูกาล แต่ในส่วนของกำไรนั้นอาจจะยังไม่ทำสถิติใหม่จนถึงไตรมาส 4/61 เนื่องจากยอดขายผ่าน CBEC มีอัตรากำไรต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

 

สำหรับสินค้าใหม่ 2 ชนิดในรูปแบบซองได้เริ่มทดลองขายในร้าน 7-Eleven จำนวน 100 สาขา จนถึงกลางเดือน ก.ย. ถ้าผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ บริษัทน่าจะสามารถปูพรมลงสินค้าดังกล่าวได้ 10,000 สาขาในไตรมาส 1/62 ซึ่งน่าช่วยเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ปัจจุบันสินค้าของ BEAUTY ขายผ่าน Catalog on Shelf ในร้าน 7-Eleven เพียง 500 สาขา และคิดเป็น 3.5% ของยอดขายรวม

 

Back to top button