หมดแรง..แต่ไม่หมดใจ

*สถานการณ์ของการลงทุนวานนี้ทำให้ “โมนิก้า” รำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งตลาดหุ้น panic จากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมขึ้นมาทันที เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือนครึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า อย่าไว้ใจทาง..อย่าวางใจหุ้น เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ มันเป็นเรื่องของเกมข่าวสาร ซึ่งมีผลต่อการลงทุนโดยตรงนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของการลงทุนวานนี้ทำให้ “โมนิก้า” รำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งตลาดหุ้น panic จากปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมขึ้นมาทันที เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือนครึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้รู้ว่า อย่าไว้ใจทาง..อย่าวางใจหุ้น เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ มันเป็นเรื่องของเกมข่าวสาร ซึ่งมีผลต่อการลงทุนโดยตรงนะจะบอกให้

*ที่สำคัญคือ หากนับการขึ้นลงของดัชนีในเที่ยวนี้จะเห็นว่า ดัชนีลงหนัก 2 วัน ขึ้นแรงแบบงง ๆ 1 วัน ก่อนจะทรุดตัวไปเรื่อย ๆ รวมเบ็ดเสร็จร่วงลงมาประมาณ 50 จุด… หากนับถอยหลังไปรอบก่อน ดัชนีก็ร่วงลงมาประมาณ 50 จุดเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนมองสาเหตุที่ทำให้ดัชนียืนปิดได้แค่ระดับ 1,691.51 จุด บวกไป 2.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.30 หมื่นล้านบาท มันสะท้อนอาการหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด แต่จะใช่ตอนจบของเรื่องนี้หรือเปล่า ?

*หากมองว่า ยังเดินมาไม่ถึงตอนจบของเรื่อง ก็ต้องมองแนวรับ 1,680 จุดยังทำงานหรือเปล่า ? หากจุดดังกล่าวยังเอาไม่อยู่จริง ๆ ดัชนีจะถอยลงมาถึงแนวรับสุดท้าย 1,650 จุดไหม ? “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องอ่านจังหวะดังกล่าวให้เป็น และควรเข้าเก็บหุ้นให้ถูกจังหวะ พร้อมกันนั้นควรตั้งอยู่บนความเป็นจริงว่า ทุกคนพร้อมสาดหุ้นเมื่อรู้สึกมีอะไรบางอย่างมาสะกิดใจนะจะบอกให้

*ขนาดตัวทีเด็ดอย่าง PTTGC ซึ่งเป็นหุ้นที่มีการกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง แถมมีสตอรี่ดีหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ยังโดนถล่มจนร่วงลงมานอนนิ่งอยู่ที่พื้นแบบง่าย ๆ แถมวานนี้หุ้นยังยืนปิดได้แค่ระดับ 79 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 632.99 ล้านบาท มันทำให้ “โมนิก้า” มั่นใจขึ้นไปอีกขั้นว่า เกมนี้ถูกเซตฉากโดยเหล่ากองทุนตัวแสบ พอถึงเวลาทุบเพื่อทำกำไร หุ้นถึงไหลลงง่ายขึ้นยากไงล่ะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ IVL ไหลลงจากราคา 60.50 บาทเหมือนคนไม่มีแรงสู้ จนสุดท้ายลงมากองอยู่ที่ 57.25 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.87% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 858.47 ล้านบาท และทำท่าจะอ่อนตัวลงไปยืนแถว 54 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนต์ของพวกกองทุนตัวแสบที่ต้องคิดหนัก เพราะแมงเม่าอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ คงตัดใจขายขาดทุนไปก่อนหน้านี้กันหมดแล้วล่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการเซถลาของหุ้น BANPU หลายวันติดต่อกันแบบง่าย ๆ แสดงว่า ไม่ต้องการถือหุ้นต่อไปจริง ๆ ถึงถล่มหุ้นแบบไม่เลี้ยง ล่าสุดหุ้นอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 19.30 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2.03% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.43 พันล้านบาท มันมองได้ 2 มุม คือ  หุ้นมีโอกาสไหลลงต่อ กับ หุ้นมีโอกาสตีกลับ หลังลงมายืนตรงเส้นจุดเด้งกลับที่บริเวณ 19.20 บาท ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่า กองทุนเอาหุ้นตัวนี้หรือเปล่า ?

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูหุ้น ASIAN เพื่อเป็นการเปลี่ยนอารมณ์จาก  “กองทุนตัวแสบ” มายัง “ขาใหญ่ลุยดะ” หลังพรายกระซิบคาบข่าวมาเล่าให้ฟังว่า มีการเมกสตอรี่ค่อนข้างเยอะ เมื่อสถานการณ์ไม่เอื้อให้หุ้นวิ่งขึ้นไปทำฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม บวกกับหุ้นวิ่งขึ้นมาชนยอดเดิมบริเวณ 9.50 บาท วานนี้ถึงเห็นหุ้นยืนปิดได้แค่ 9.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126.61 ล้านบาท ถึงเวลาซื้อหรือยัง..ถามใจเธอดูซิจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ SUPER ทรุดตัวลงมานอนซึมกระทือที่บริเวณ 0.73 บาท ลบไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 181.35 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นแพตเทิร์นที่แตกต่างจากรายข้างต้นค่อนข้างเยอะก็จริง แต่เมื่อดูจากความคืบหน้าของการจัดตั้งกองทุนที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า ก็ทำให้เดี๊ยนสะดุ้งโหยงในทันที ! เพราะกลายเป็นว่า หุ้นตัวนี้ติดเชื้อโรคเลื่อนเป็นเวลานาน หุ้นเลยไปไหนไม่ได้สักทีเจ้าค่ะ

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” อยากให้เป็นของแถมเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสักหน่อยก็คือ SGF หลังมีข่าวเม้าท์ลับหลังกันอย่างสนุกสนานว่า พื้นฐานที่เปลี่ยนไปในคราวนี้เกิดจากการรวมหุ้น (วิศวกรรมทางการเงิน) ทำให้แวลูของหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยถึงบางอ้อช้ากว่าคนอื่นแบบน่าอาย  วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 1.75 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 11.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 203.57 ล้านบาทแบบนี้..ลุยซิคะ..รออะไรอยู่อีกล่ะจ๊ะ

*ดูดีสมชื่อจริง ๆ สำหรับหุ้นน้องใหม่ DOD หลังมีข่าวรัฐเคาะวงเงินอัดฉีดสมุนไพรไทยไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาทเพื่อรับกระแสอุตสาหกรรมสมุนไพรที่กำลังบูมสุด ๆ  บวกกับการโรงงานของ “น้องผึ้ง” เป็นโรงสกัดสมุนไพรครบวงจรเพียงเจ้าเดียวที่ได้มาตรฐาน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูหุ้นตัวนี้เป็นพิเศษ เพราะราคาปิดที่ 13.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 44.81 ล้านบาท  มันต่ำกว่าแวลูของหุ้นตัวนี้ค่อนข้างเยอะ..รู้แล้วลุยเลยนะจ๊ะ

Back to top button