ดาวโจนส์ปิดวานนี้บวกเกือบ 40 จุด รับยอดค้าปลีกแข็งแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับกาคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด หลังจากมีรายงานข่าวว่า การเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้ได้ยุติลง โดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนสปิดที่ 18,039.37 จุด เพิ่มขึ้น 38.97 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,082.51 จุด เพิ่มขึ้น 5.82 จุด หรือ +0.11% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,108.86 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด หรือ +0.17%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยในช่วงแรกนั้น ดาวโจนส์ทะยานขึ้นไปกว่า 100 จุด ขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนพุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 4.449 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้ว่าผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายหลังจากมีท่าทีระมัดระวังในช่วงต้นปี

อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดอ่อนตัวลงในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่า การเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้ประสบทางตันอีกครั้งหนึ่งเมื่อวานนี้ หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่า ตัวแทนของ IMF ได้ยุติการเจรจาในกรุงบรัสเซลส์แล้ว และได้เดินทางกลับประเทศโดยทันที เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากกับทางกรีซ

หนังสือพิมพ์ Kathimerini ของกรีซ รายงานเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลกรีซได้เรียกร้องต่อเจ้าหนี้เพื่อขอขยายเวลาของโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในปัจจุบันออกไปอีก 9 เดือน จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดลงในเดือนนี้

นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ยังได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ CCC หรือระดับขยะ ซึ่งสะท้อนมุมมองที่ว่า รัฐบาลกรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ภายใน 12 เดือนข้างหน้านี้ หากกรีซไม่สามารถทำข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มยานยนต์ ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นโทลล์ บราเธอร์ส ปรับขึ้น 1% หุ้นเคบีโฮม ดีดตัวขึ้นกว่า 1% หุ้นแกป ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่ ปรับขึ้น 1.9% และหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้น 13% หลังจากมีรายงานว่า นายดิค คอสโทโล จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้น Chesapeake Energy ร่วงลง 4.3% หุ้นทรานส์โอเชียนร่วงลง 5% ส่วนหุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง และหุ้นโนเบิล คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 3.9% ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Back to top button