TVD ทุ่มพันล้าน! ชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวเทคฯ “สปริงนิวส์ ช่อง 19” ทำช่องช็อปปิ้งเต็มตัว

TVD ทุ่มพันล้าน! ชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวเทคฯ "สปริงนิวส์ ช่อง 19" ทำช่องช็อปปิ้งเต็มตัว


บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห้งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด (SPTV) จากบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท นิวส์เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชะ่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90.10 ของหุ้นทั้งหมดที่ออกและชำระแล้วของ SPTV โดยปราศจากภาระผูกพันและการรอนสิทธิใดๆ

ทั้งนี้ SPTV เป็นผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์และธุรกิจด้านสื่อสารมวลชนทุกชนิด โดยได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลช่องรายการหมวดข่าวสารและสาระ สำหรับช่องสปริงนิวส์ ทีวีดิจิตอลช่อง 19

โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระกายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมทั้งว่าจ้างให้ SPC จัดทำและผลิตรายการข่าวและสาระตลอดอายุใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ฯ (ใบอนุญาตสิ้นสุดวันที่ 24 เมษายน 2572) 

ทั้งนี้เพื่อถือครองใบอนุญาตกิจการโทรทัศน์ฯ และประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ให้บริการภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลช่องรายการหมวดข่าวสารและสาระ ช่องสปริงนิวส์ บริษัทต้องชำระค่าหุ้นเป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ 7,655,000บาท นับตั้งแต่วันที่การซื้อขายหุ้นของ SPTV สำเร็จเป็นต้นไป จนสิ้นสุดกำหนดระยะเวลาของใบอนุญาตกิจการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 949,220,000 บาท

รวมทั้งชำระค่าผลิตรายการข่าวสารและสาระในอัตราเดือนละ 1,055,000 บาท และให้สิทธิ SPC ขายเวลาโฆษณาอีกในสัดส่วนร้อยละ 30 ของเวลาที่ SPC ผลิตรายการข่าวสารและสาระ ซึ่งคำนวณเป็นมูลค่าประมาณเดือนละ  540,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 1,595,000 บาท

สำหรับผลประโยชน์ท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นจากการเข้าทารายการดังกล่าว คือ ทำให้บริษัทได้รับสิทธิในการบริหารขัดการช่องสปริงนิวส์ ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกอจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรศัทน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติหมวดหมู่ข่าวสารและสาระ

รวมทั้งสามารถบริหารจัดการและเลือกเวลาออกอากาศเพื่อโฆษณาขายสินค้าของบริษัทและบริษัทในเครือได้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังลดความเสี่ยงของบริษัทในการพึ่งพาการเช่าเวลาในการโฆษณาออกอากาศขายสินค้าผ่านทีวีช่องอื่นๆ รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการเข้าเวลาเพื่อการโฆษณาขายสินค้าของบริษัทและบริษัทในเครือ

พร้อมทั้งการเข้าทำรายการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่บริษัทและบริษัทย่อยในการแข่งขันกับคุ่แข่งทางการค้า ซึ้งจะช่วยเพื่อยอดขายสินค้าของบริษัทและบริษัทย่อย และส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทดียิ่งขึ้น

ด้าน นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEWS ในฐานะบริษัทผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์  เปิดเผยถึงแผนธุรกิจของสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ช่อง 19  ว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันของทีวีดิจิทัล  ยังเห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในมรสุมที่ต้องเอาตัวรอดจากการใช้เรตติ้งเป็นตัวชี้วัดในการหารายได้ ทำให้เม็ดเงินโฆษณากระจุกตัวอยู่ในช่องที่มีเรตติ้งสูงเพียงไม่กี่ช่อง 

ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับยุทธศาสตร์เพิ่มช่องทางรายได้ใหม่ โดยจับมือกับ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์และสุขภาพบริการผ่านทุกช่องทางแบบ Omni Channel รายใหญ่ที่สุดของประเทศ ร่วมผลิตรายการแนะนำสินค้าต้ังแต่ไตรมาส 2/61 

โดยปรากฏว่าได้รับการตอบรับและมียอดสั่งซื้อเกินกว่าที่คาดหมาย ขณะที่รายได้ของช่องก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่าเท่าตัว และเริ่มมีกำไรเงินสดจากการดำเนินงาน(EBIDA) ซึ่งหมายถึงสปริงนิวส์ใกล้จะพ้นจากสภาวะขาดทุนได้ในเร็ว ๆ นี้

สำหรับความสำเร็จจากการร่วมมือดังกล่าวทำให้สปริงนิวส์ตัดสินใจเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจกับบริษัททีวีไดเร็คในรูปแบบการร่วมลงทุนระยะยาว

ทั้งนี้เพื่อนำศักยภาพความเชี่ยวชาญในธุรกิจเทเลมาร์เก็ตติ้งมาพัฒนาทีวีดิจิตอลช่อง19 ให้เป็นสถานีข่าวและสาระไลฟ์สไตล์คุณภาพ โดยมีแผนจะพัฒนาสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ให้เป็นผู้นำเทคโนโลยีและการบริการในรูปแบบ Response TV อย่างเต็มตัวเป็นรายแรกของวงการทีวีดิจิทัล

โดย TVD จะเข้าร่วมลงทุนในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้รับอนุญาตดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลจาก กสทช. เพื่อสร้างสรรค์รายการสาระรูปแบบใหม่ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวกรวดเร็วทันใจ ควบคู่กับการขยายประเภทสินค้าให้หลากหลายตอบสนองทุกกลุ่มเป้าหมาย

ขณะที่สปริงนิวส์จะทำหน้าที่ผลิตรายการข่าวและรายการสาระคุณภาพ โดยยังคงรักษาสัดส่วนเนื้อหารายการตามเงื่อนไขของ กสทช.ภายใต้ใบอนุญาตการเป็นช่องข่าวสารสาระที่มีคุณภาพได้อย่างเคร่งครัด

“เป็นการผนึกกำลังและประสบการณ์ด้านงานข่าวของเรา เข้ากับความชำนาญด้านการตลาดของทีวีไดเร็ค ซึ่งพิสูจน์แล้วจากการทำงานร่วมกันในหลายเดือนที่ผ่านมาว่าเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่สามารถยกระดับให้ดียิ่งขึ้นได้อีก”นายอารักษ์กล่าว

ด้าน นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี  กรรมการผู้จัดการ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของสปริงนิวส์นับจากนี้สปริงนิวส์จะเดินหน้าขยายธุรกิจข่าวอย่างอิสระ และคล่องตัวขึ้น ภายใต้ชื่อ สปริงนิวส์ เน็ตเวิร์ค นำเสนอช่องทางสื่อทุกแพลตฟอร์ม 

โดยให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก รวมไปถึงการผลิตรายการข่าวทางสื่อโทรทัศน์ในกลุ่มพันธมิตรทั้งทีวีดิจิทัลช่อง 19 ช่อง 26 และอื่น ๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนธุรกิจ ที่จะประกาศยุทธศาสตร์เดินหน้าธุรกิจสื่อและการลงทุนด้านคอนเทนท์ ครั้งใหญ่ในปลายปีนี้

ที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กรเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องกับ สถานการณ์ธุรกิจทีวีดิจิทัลและทิศทางของเทคโนโลยีสื่อที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองฝ่าย ต่างได้รับโอกาสที่ดีที่จะร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการ โดยสปริงนิวส์จะทุ่มกำลังทีมงานและปรับโครงสร้างองค์กรไปสู่  Digital Transformation และมีศักยภาพยิ่งกว่าการเป็นเพียงช่องข่าวทางโทรทัศน์ แต่จะมีขีดความสามารถในการผลิตงานที่มีคุณภาพบนช่องทางต่างๆ ในทุกแพลตฟอร์ม มุ่งสู่การเป็นผู้เล่นแถวหน้าในธุรกิจสื่อดิจิทัลที่ครบวงจรอย่างแท้จริง”นางสาววทันยา กล่าว

ปัจจุบัน สปริงนิวส์ เน็ตเวิร์คได้ผลิตรายการข่าวออกอากาศในโทรทัศน์ช่อง 19 และช่อง 26 รวมถึงช่องทางดิจิทัลอื่นๆอาทิ  เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ยูทูป และช่องทางพันธมิตร ได้แก่ ไลน์ทีวี และ ไอฟลิกซ์เป็นต้น

Back to top button